วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กุนนาบาสเบิ้ล!เรือสุดใจทมิฬตระหน่ำไก่ 6:0

กุนควงนาบาสเบิ้ล!เรือสุดโหดถล่มไก่6:0ขึ้นที่4

 

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 

ฤดูกาล 2013-2014

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 6:0 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

ผู้ตัดสิน : ฮาเวิร์ด เว็บ


ครึ่งแรก

เปิดฉากครึ่งแรกมาแค่ 13 วินาที แมนฯซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำ 1:0 อย่างรวดเร็ว จากลูกที่ สเปอร์ส เขี่ยบอลกลางสนาม ก่อนส่งลูกคืนหลังไปให้ ฮูโก้ โยริส แต่หวดขึ้นหน้าพลาด เซร์คิโอ อเกวโร่ แย่งลูกบอลได้ก่อนยิงด้วยขวา ฮูโก้ โยริส เซฟได้แต่โชคร้ายปัดมาเข้าทาง เฆซุส นาบาส ได้ชิพบอลจากทางขวาบอลย้ายเสียบเสาไกลเข้าไป

นาที 5 ไคล์ วอล์คเกอร์ พาลูกบอลขึ้นมาทางด้านขวาก่อนปาดไปที่เสาสอง เอริค ลาเมล่า วกวนเข้ามาแปด้วยขวาย้อนกลับไปมที่เสาแรก มาร์ติน เดมิเคลิส กรองบอลจากเส้นประตูได้อย่างหวุดหวิด

อีก 2 นาทีต่อมา อัลบาโร่ เนเกรโด้ แทงทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้พ้นเข้าไปกดด้วยขวา ฮูโก้ โยริส ยังเหนียวออกมาปิดมุมเร็วเวฟไว้ได้ไม่พลาด

นาที 18 สเปอร์ได้ลูกฟรีคิกกลางประตูแถบหน้าหัวกระโหลก ลูอิส โฮลท์บี้ เขี่ยเปลี่ยนจุดให้ แยน แฟร์ต็องเก้น ได้วิงเข้ามากดด้วยขวาลูกบอลตรงตัว คอสเทล แพนทิลิมอน รับเข้าซอง

นาที 24 แยน แฟร์ต็องเก้น กระชากลูกบอลหนีเข้าเขตโทษทางซ้ายก่อนซัดมุมแคบด้วยซ้าย คอสเทล แพนทิลิมอน ปัดออกหลังไป

นาที 34 เจ้าบ้านมาได้ประตูหนีไปเป็น 2:0 จากลูกเปิดทางฝั่งซ้าย เซร์คิโอ อเกวโร่ ยิงด้วยขวา ฮูโก้ โยริส ปัดมาเข้าทาง อัลบาโร่ เนเกรโด้ โลดวอลเลย์บอลไปแฉลบ ซานโดร ทำเข้าประตูตัวเอง

นาที 41 ปาโบล ซาบาเลต้า จ่ายบอลขึ้นมาทางขวาให้ เฆซุส นาบาส ได้พาลูกบอลไปปาดเข้าเขตโทษ เซร์คิโอ อเกวโร่ สอดเข้ามาแปด้วยซ้ายบอลไหลเสียบเสาไกลเข้าไป แมนฯซิตี้ หนีห่างไปเป็น 3:0

เวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้จบเกมครึ่งแรก แมนฯซิตี้ ยังนำ สเปอร์ 3:0

ครึ่งหลัง

ลงมาต่อครึ่งหลังแค่ 5 นาที แมนฯซิตี้ นำโด่งเป็น 4:0 จากจังหวะที่ ยาย่า ตูเร่ กระชากลูกบอลหนีการประกับขึ้นมาทางซ้ายก่อนปาดเข้ากลางให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ กดด้วยขวาลูกบอลผ่านมือ ฮูโก้ โยริส เสียบตาข่าย

นาที 52 ซาเมียร์ นาสรี่ ลากลูกบอลจี้เข้าเขตโทษทางฝั่งซ้ายก่อนหลอกว่าจะจ่ายแต่เป็นชิบลูกบอลข้ามหัว ฮูโก้ โยริส บอลย้อยไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

อีก 3 นาที แมนฯซิตี้ สกอร์ไหลเป็น 5:0 จากลูกที่ แฟร์นานดินโญ่ ตำทะลุช่องเข้าให้ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ได้ไขว้ลูกบอลหลอก ไมเคิ่ล ดอว์สัน ก่อนพลิกตัวกดด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบตาข่าย

นาที 73 เฆซุส นาบาส กระชากลูกบอลหนีขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนโยนบอลจากริมเส้นเข้าเขตโทษ อัลบาโร่ เนเกรโด้ เทกตัวขึ้นโขกลูกบอลโด่งข้ามคานออกหลัง

นาทีที่ 80 มุสซ่า เดมเบเล่จ่ายบอลทะลุช่อง ให้กับเอ็มมานูเอล อาเดบายอร์ได้หลุดขึ้นไปด้านฝั่งซ้าย ก่อนจะยิงลูกบอลไปติดขาคอสเทล แพนทิลิมอนออกไป

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 2 เเมนฯ ซิตี้ หนีห่างด้วยผลบอล 6:0 จากเจมส์ มิลเนอร์ เปิดบอลยาวให้กับ เฆซุส นาบาสหลุดขึ้นไปได้ฝั่งขวา ก่อนจะลากเข้าไปยิงผ่านมือฮูโก้ โยริสเข้าไป

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ :ระบบ 4-4-2
ผู้รักษาประตู : คอสเทล แพนทิลิมอน
กองหลัง : ปาโบล ซาบาเลต้า, มาติย่า นาสตาซิช(โจลีออน เลสค็อตต์ น.45), มาร์ติน เดมิเคลิส, กาแอล กลิชี่
กองกลาง : เฆซุส นาบาส , แฟร์นานดินโญ่, ยาย่า ตูเร่, ซาเมียร์ นาสรี่(เจมส์ มิลเนอร์ น.76)
กองหน้า : เซร์คิโอ อเกวโร่ (ฆาบี การ์เซีย น.69), อัลบาโร่ เนเกรโด้

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ :ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : ฮูโก้ โยริส
กองหลัง : ไคล์ วอล์คเกอร์, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, แยน แฟร์ต็องเก้น, ยูเนส กาบูล
กองกลาง : ซานโดร, เปาลินโญ่(มุสซ่า เดมเบเล่ น.61), เอริค ลาเมล่า , ลูอิส โฮลท์บี้(เอ็มมานูเอล อาเดบายอร์ น.45), อาร่อน เลนน่อน
กองหน้า : โรเบร์โต้ โซลดาโด้ (กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน น.61)

 

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

โด้แฮตทริค! ฝอยทองซัดสวีเดน 3:2

โด้แฮตทริค!ฝอยทองเบียดสวีเดน3:2ไปบราซิล+คลิป 
โด้แฮตทริค!ฝอยทองเบียดสวีเดน3:2ไปบราซิล+คลิป

วิเคราะห์บอลโลก 2014 

รอบเพลย์ออฟนัดสอง

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2556

สวีเดน 2:3 โปรตุเกส
(ผลนัดแรก โปรตุเกส ชนะ 1:0 รวมสองนัด 4:2)

สนาม : เฟรนด์ส อารีน่า, โซลน่า

ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ (อังกฤษ)



นาที 14 โปรตุเกส ได้ลุ้นจากลูกนิ่งของ เจา มูตินโญ่ เปิดไปหน้าประตูให้ บรูโน่ อัลเวส ขึ้นโหม่งไปเข้าใกล้เชพของ อันเดรียส อิซัคส์สัน ปัดบอลออกหลังไป

นาที 32 ทีมเยือนมีลุ้นจากทางเตะมุมด้านขวาโยนมาให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โหม่งแรงโด่งออกหลังเสีย

ต่อมา 3 นาที คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้บอลด้านขวาเลี้ยงตัดเข้ามาหน้ากรอบเขตโทษ ตกลงใจยิงไกลด้วยซ้ายไม่ผ่านมือของ อันเดรียส อิซัคส์สัน รับเอาไว้ได้

นาที 38 "ฝอยทอง" อาศัยจังหวะโต้กลับเร็วบอลไปถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สุดเส้นหลังด้านขวาโยนมาหน้าประตู ฮูโก้ อัลเมย์ด้า ขึ้นโหม่งเข้าข้างตาข่ายไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 42 สวีเดน มีงวดบ้าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ไหลบอลให้ คิม คัลล์สตรอม ส่องไกลทว่าไม่ผ่านมือ รุย ปาทริซิโอ ล้มตัวคว้าบอลเอาไว้

มาครึ่งหลังนาที 48 เจ้าบ้านน่าได้ประตูขึ้นนำ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช จ่ายบอลให้ เซบาสเตียน ลาร์สสัน แปจ่อๆ หน้าประตูไปติดเชฟ รุย ปาทริซิโอ เสีย

จากนั้น 2 นาทีกลายเป็น โปรตุเกส ที่มาได้ประตูออกนำจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดเข้าเขตโทษกดด้วยซ้ายผ่าน อันเดรียส อิซัคส์สัน เข้าไปตุงตาข่าย 1:0

นาที 68 "ไวกิ้ง" ตามตีเสมอจนได้ในทางเตะมุมโยนมาให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ขึ้นโหม่งเข้าไปเป็น 1:1

นาที 72 สวีเดน พลิกขึ้นนำ 2:1 เมื่อมาได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษและ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช รับหน้าที่กดเต็มข้อลอดขวากหนามพุ่งเข้าประตูไปอย่างแรง

นาที 77 โปรตุเกส ตามตีเสมอบ้างจังหวะโต้กลับเร็วบอลถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดไปทางซ้ายก่อนยิงผ่าน อันเดรียส อิซัคส์สัน เสียบเสาไกล 2:2

ถัดมา 2 นาที "ฝอยทอง" กลับมาขึ้นนำอีกครั้งเมื่อบอลไปถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หน้าประตูแตะต้องหลบ อันเดรียส อิซัคส์สัน แล้วยิงด้วยขวาเสยใต้คานเข้าไป 3:2

นาที 86 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลุ้นทำประตูเพิ่มด้วยการยิงไกลบอลหลุดเสาออกหลังไปนิดเดียว

จบเกมการขับเคี่ยว 90 นาที โปรตุเกส ชนะ สวีเดน 3:2 รวมผลบอลสองนัด 4:2 ได้ตั๋วไปบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย



รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สวีเดน : ระบบ 4-4-2
ผู้รักษาประตู : อันเดรียส อิซัคส์สัน
กองหลัง : มิคาเอล ลุสติก, มิคาเอล อันทอนส์สัน, เพอร์ นิลส์สัน, มาร์ติน โอลส์สัน
กองกลาง : เซบาสเตียน ลาร์สสัน, ราสมุส เอล์ม, คิม คัลล์สตรอม, อเล็กซานเดอร์ คาซานิคลิช
กองหน้า : ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, โยฮัน เอลมานเดอร์

โปรตุเกส : ระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : รุย ปาทริซิโอ
กองหลัง : เจา เปเรยร่า, เปเป้, บรูโน่ อัลเวส, ฟาบิโอ โคเอนเตรา
กองกลาง : เจา มูตินโญ่, มิเกล เวโลโซ่, ราอูล เมยเรเลส
กองหน้า : หลุยส์ นานี่, ฮูโก้ อัลเมย์ด้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

 

สวีเดน 2:3 โปรตุเกส ฟุตบอลโลก 2014 (รอบเพลย์ออฟนัดสอง)


 

ส่วนผลฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2014 คู่อื่น

อียิปต์  2 - 1 กานา
แอลจีเรีย 1 - 0 บูร์กินาฟาโซ่    
โรมาเนีย 1 - 1 กรีซ    
โครเอเชีย 2 - 0 ไอซ์แลนด์    
สวีเดน 2 - 3 โปรตุเกส    
ฝรั่งเศส 3 - 0 ยูเครน    

 

 

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เล็งชุดทีมชาติโฉมใหม่ที่ได้ไปฟุตบอลโลก

ส่องชุดทีมชาติโฉมใหม่ที่ได้ไปฟุตบอลโลก 
ส่องชุดทีมชาติโฉมใหม่ที่ได้ไปฟุตบอลโลก

เสื้อเหย้าของทีมชาติ ที่ได้ไปฟุตบอลโลก 2013 ที่บราซิล โดย อาดิดาส แบรนด์ชื่อดังของโลก

 

1.ทีมชาติเยอรมัน

ชุดเหย้าของทีมชาติเยอรมัน เป็นสีขาว มีแถบดำดินแดนคอถึงไหล่ ขอบแขนมีสีแดงดำ และมีสีคาดบริเวณอก ส่วนกางเกงก็เป็นสีขาวเช่นกัน มีแถบสีดำบริเวณ้านข้าง และที่ปลายขาจะมีคาดสีแดงดำ


2.ทีมชาติอาร์เจนติน่า

ชุดเหย้าของอาร์เจนติน่า ยังคงเป็นสีฟ้าขาวเช่นเดิม แต่ดินแดนคอเสื้อจะมีสีดำ และแถบดินแดนคอถึงไหล่จะเป็นสีดำ ปลายแขนเสื้อก็ขอบดำ ส่วนกางเกงยังเป็นสีขาว ด้านข้างกางเกงมีแถบสีดำ และบริเวณปลายขาคาดสีฟ้า


3.ทีมชาติสเปน

ชุดเหย้าของทีมชาติสเปน ยังคงสีแดงไว้เช่นเคย โดยดินแดนคอถึงไหล่จะมีแถบสีทอง หน้าอกด้านซ้ายมีตราทีมชาติสเปน ส่วนทางด้านขวาจะเป็นตราฟีฟ่าที่สเปนจะมีติดบนอกเสื้อเช่นทีมเดียวเท่านั้น กางเกงสีแดงมีแถบสีทองด้านข้าง ถุงเท้าแดง เรียกได้ว่าแดงทั้งชุดกันเลยทีเดียว


4.ทีมชาติญี่ปุ่น

ชุดเรือนของญี่ปุ่นยังเป็นสีน้ำเงิน ดินแดนคอถึงไหล่จะมีแถบสีขาว ส่วนปลายแขนทั้งสองข้างจะคาดสีแดง ที่น่าสนใจคือดินแดนหน้าอกตรงโลโก้จะเห็นแถบบางสีจางๆมารวมกัน มีธงชาติอยู่เหนือโลโก้ ส่วนกางเกงสีเดียวกับเสื้อ ด้านข้างกางเกงมีแถบสีขาว ปลายขากางเกงมีสีแดงคาด


5.ทีมชาติโคลัมเบีย

ชุดเหย้าของทีมชาติโคลัมเบีย เป็นสีเหลือง ลายคาดเฉลียงสีดำ และดินแดนปลายแขนมีสีขาวกับสีดำ

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ผีกระหายคะแนน

ปีศาจกระหายแต้ม

 

หลังจบเกมการแข่งขัน สาวก "เดอะ กันเนอร์ส" คงตกอยู่อารมณ์ "เฟ็งฝุดๆ" กับผลการประลองที่ไม่เป็นใจ ตรงข้ามกับฟอร์มโดยรวม

ศึกบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ของลูกหนังเลือดผู้ดีที่คนทั้งโลกรอคอย จบลงด้วยความชนะของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในคราวเปลี่ยนถ่าย เหนือคู่แข่ง อาร์เซน่อล ในยุคคิดใหม่ทำใหม่ ด้วยผลบอล 1-0

เห็นสกอร์จุ๋มจิ๋มแค่นี้ แต่ที่จริงไม่เล็กนะคร้าบบบ ...

"ไม่เล็ก" ในที่นี้หมายถึงเกมการประลองที่เต็มไปด้วยความมันส์ชนิด 6 สูบ 400 แรงม้า ไม่มีใครยอมใคร ประหนึ่งดังว่า ไอ้หรั่งแห่งสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ขอย่างกลายเทียบชั้น คุณลำยอง แห่งทองเนื้อเก้า ยังไง ยังงั้น

ขออ้างอิงอิงกระแสเข้าผู้เข้าคนซะหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าขึ้นรถไฟไม่ทัน (ตกเทรนด์ 55) เพราะอย่างที่รู้ๆ กัน กระแสคัดค้านเต็มบ้านเต็มเมือง ไม่เว้นแม้แต่ "คัดค้านการส่ง เวลเบ็ค ลงสนาม"



สาวก "ปีศาจแดง" บางท่านอาจเฮลั่นตั้งแต่ก่อนเกม หลังจากที่ "โก๋แดน" ยังไม่หายเจ็บเข่า ไม่มีชื่อในเกมนี้ ก่อนจะได้เฮเด้งที่ 2 กับ 3 แต้มที่ได้มาชนิดวาบหวิวฉิวเฉียด

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ขุนพล "มอยส์ ยูไนเต็ด" เอาตัวรอดมาได้อย่างจวนเจียน คว้า 3 คะแนนสำคัญแบบทุลักทุเล ก่อนพักเบรกโปรแกรมทีมชาติในอีก 1 สัปดาห์ให้หลัง

แมตช์นี้ถือว่าแฟนลูกหนังได้เสพเกมที่มีคุณภาพอีกเกมหนึ่งเท่าที่อาจจะเคยเห็นมา ทั้งการเปิดเกมเร็วทางริมเส้นของ แมนฯ ยูฯ หรือจะการต่อบอลเท้าสู่เท้าอย่างแม่นยำ ของฝั่งอาร์เซน่อล

สุดท้ายตัวเลขบนสกอร์บอร์ดไม่เคยโกหกใคร แมนฯ ยูฯ สามารถขโมยความได้เปรียบจากรูปเกมที่เหนือกว่าในครึ่งแรก กระทั่งได้ประตูชัยจากอดีตคนรักของเหล่า "กูนเนอร์ส" อย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ซัดประตูใส่อดีตชู้รัก เป็นลูกที่ 3 นับตั้งแต่เลิกรากันเมื่อซัมเมอร์ปี 2012



โดยหากได้เห็นอากัปกริยาหลังโขยกประตูของ "อาร์วีพี" แล้วแทบไม่เหลือเยื่อใยให้กับอดีตทีมเก่าแม้แต่น้อย แถมเลี้ยงบทรักอย่างดูดดื่มกับคู่หู เวย์น รูนี่ย์ อย่างถึงพริกถึงขิงไม่แคร์สายตาใครๆ

เท่ากับว่าหมดยกแรก แมนฯ ยูฯ ที่ดูสดกว่านำหน้าผู้มาเยือน 1 เม็ด พร้อมกับรูปเกมที่ขี่อยู่เล็กน้อย

เข้าใจว่า เดวิด มอยส์ คงจะติวเข้มลูกทีมมารับมือกับเกมนี้เป็นอย่างดี หลังเพิ่งคว้าชัยเพียงแค่ 2 เกมจากการเฝ้ารังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มาแล้วกว่า 5 นัด โดยเป็นการตีรั้ง 2 เกม และแทบเอาปี๊บคลุมหัวเดินในเกมพ่าย เวสต์บรอมฯ 1-2

แต่พอหลังพักให้น้ำไก่เท่านั้นล่ะพ่อคุณเอ๋ย !! วิญญาณปีศาจมอยส์ ผู้ถนัดรับมากกว่ารุก เช่นเดียวกับชอบเป็นควีนมากกว่าคิง เข้าสมสู่สิงร่างหนุ่มใหญ่วัย 50 กระรัต สั่งเน้นรัดกุมเอาไว้ แล้วพักพิงจังหวะโต้งามๆ พอ

เท่ากับว่าพอใจในสกอร์ที่มี แล้วหาทางขยี้ในเวลาที่เหมาะสม



แบบแปลนดังกล่าวที่วางไว้ถือว่าบรรลุเป้าหลังสิ้นเสียงนกหวีด แต่ก็ทำเอาใจหายใจคว่ำอยู่ไม่น้อย เมื่อเจอพายุเกมบุกชนิดกะเอาตายของลูกทีมอาร์แซน เวนเกอร์ ถึงกับแทบกระอักกันเลยทีเดียว

บวกกับแข้งประสบการณ์สูงอย่าง เนมานย่า วิดิช หัวใจเด่นในแนวรับก็ดันมาเดี้ยง หลังจากกระบาลไปชนเข้ากับหัวเข่าของ ดาบิด เด เคอา ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่ง งานหนักตกถึงมือ จอนนี่ อีแวนส์ เช่นเดียวกับ ฟิล โจนส์ ที่ต้องถอยลงมายืนเซ็นเตอร์แทน และทำงานได้อย่างดียิ่ง

ต้องยอมรับว่าฟุตบอลเท้าสู่เท้าของ อาร์เซน่อล เจ๋งเป้งสมคำร่ำลือ เท้าซ้ายของ เมซุต โอซิล ริเริ่มทำงาน สยบแดนกลางของ "ผีแดง" จนอยู่หมัดและหาโอกาสเข้าทำได้เกือบทุกครั้งที่ได้บุก โดยเฉพาะลูกครอสทางริมเส้นฝั่งขวาของ บาการี่ ซาญ่า ที่ค่อนข้างเฉียบคมและถูกต้อง

ความหวาดกลัวหวั่นเกรงแว็บเข้ามาในมโนสำนึก พลางให้ระลึกถึงความโศกีช่วงท้ายเกมเมื่ออดีตกาลไม่นานมานี้ หลังโดน เซาธ์แฮมป์ตัน บุกแบ่งแต้มถึงถิ่น ตีเสมอ 1-1 แบบเจ็บๆ นาที 89



แต่ก็จนแล้วจนรอดหวิดไปหวิดมา แผงตาข่ายทั้งสองฝั่งไม่ได้ทำหน้าที่สั่นไหวทั้งปวง 45 นาทีหลัง เท่ากับว่า แมนฯ ยูฯ เก็บความชนะเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน พร้อมกับสยบสถิติไร้พ่ายเกมนอกบ้านของ "ไอ้ปืนใหญ่" ที่ทำไว้เจ็ดชั่วโคตรกว่า 8 เดือนลงได้

ทีมของ "เฮียมอยส์" เรื่อยๆ มาเรียงๆ ริเริ่มหาจุดลงตัวได้บ้างแล้ว จากนี้ไป บรรดาแข้งอินเตอร์เนชั่นแนล จะได้เดินทางไปรับใช้ชาติบ้านเกิดทำศึกฝึกซ้อม หรือเล่นคัดเลือกบอลโลกอยู่ก็ว่ากันไป เกือบ 2 สัปดาห์เต็มๆ ก่อนมีคิวบุก คาร์ดิฟฟ์ นู่นเลย 24 พ.ย.

3 คะแนนจากเกมนี้ ช่วยให้ แมนฯ ยูฯ กระโจนขึ้นสู่อันดับที่ 5 พร้อมทั้งบีบช่องว่างระหว่างจ่าฝูง อาร์เซน่อล เหลือแคบลงเพียงแค่ 5 คะแนน

สาวก "ปีศาจ" เฮกันทั้งบ้านทั้งเมือง แต่เชื่อสิมีอีกทีมแอบยิ้มมุมปากไปกับเรา ไม่เชื่อไปถามคุณสรยุทธดู ฮ่าๆ



-จ่าตุ๊-

(tuta_giggs11@hotmail.com)

 

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่