แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โปรแกรมพรีเมียร์ลีก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โปรแกรมพรีเมียร์ลีก แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557

พรีเมียร์ลีก : ดวลจุดโทษ ยังมีชีวิตอยู่สถิติเอี่ยมสิ่งลีกคัพ !

ดวลจุดโทษ เป็นสถิติใหม่ของลีกคัพ ! 

จนถึงหมู่หงส์แดงดวลเป้าดับโบโร่ ผลบอล 14 - 13 + คลิป




เพราะว่าคณะ หงส์แดง คงจะเรียกได้ว่า หืดจับ ภายหลังที่เล่น 90 นาทีเสมอกับ ฝ่ายเดอะ โบโร่ 1-1 ต่อเวลายิงเพิ่มทีมละลูกเสมอกัน 2-2 ก่อนที่จักดวลจุดโทษทั้งหมู่แล้วชนะไปด้วยสกอร์มโหราฬเป็นสถิติ 14-13 ในศึกแคปิตอล วัน คัพ อังกฤษ รอบ 3 เมื่อ 23 กันยายน ที่ทะลุทะลวงมา

ข่าวฟุตบอล แคปิตอล วัน คัพ อังกฤษ รอบ 3 แข่งขันคืนวันอังคารที่ 23 กันยายน 2557 เป็นการพบกันระหว่างพวก หงส์แดง ลิเวอร์พูล กลุ่มขวัญใจแฟนๆ จาก ศึกโปรแกรมพรีเมียร์ลีก เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ สิงห์แดง มิดเดิ้ลสโบรช์ คณะในระดับแชมเปี้ยนชิพ

เพราะว่าเกริ่นเกมมาถึงนาทีที่ 10 พวกลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1 - 0 จากการสื่อสารผิดพลาดของระหว่างกองหลังกับผู้รักษาประตูฝ่ายเยือน ริคกี้ แลมเบิร์ต ได้ยิงจังหวะแรกติดเซฟ ก่อนที่ จอร์แดน รอสซิเตอร์ กองกลางดาวรุ่งวัย 17 ปี จะแปสวนระยะร่วม 25 หลาเข้าประตูไป

นาทีที่ 25 เหล่าหงส์แดง ยังเป็นฝ่ายดูแลเกมได้มากกว่า มีลุ้นหวาดเสียว พอ อดัม ลัลลาน่า ตั้งป้อมซัดไกลจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งหลุดเสาออกไป

นาทีที่ 30 โอกาสลุ้นประตูของ มิดเดิ้ลสโบรช์ จากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย แกรนท์ ลีดบิทเทอร์ เปิดเข้าเขตโทษให้ กิเก้ วอลเลย์ด้วยซ้าย บอลแฉลบแนวรับเจ้าถิ่นข้ามคาน

นาทีที่ 38 เดอะ โบโร่ มีโอกาสได้ประตูตีเสมอ ลี ทอมลิน ซัดไกลจากหน้าเขตโทษ มินโญเลต์ ต้องออกแรงปัดทิ้ง ก่อนที่ อัลเบิร์ต อโดมาห์ จะตวัดบอลหลุนเข้ากลางให้ อดัม คเลย์ตัน ได้โหม่ง แต่ข้ามคาน

และหมดครึ่งแรก หมู่ลิเวอร์พูล นำ กลุ่มมิดเดิ้ลสโบรช์ อยู่ 1 - 0

ริเริ่มเกมส์มาในครึ่งหลัง ก็ยังไม่มีทีมใดเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น เปิดผนังมานาที 62 กรุ๊ปเดอะ โบโร่ มาทวงประตูตีเสมอเป็น 1 - 1 แกรนท์ ลีดบิทเทอร์ เปิดฟรีคิกจากมุมเขตโทษฝั่งขวาเข้ากลางให้ อดัม รีช โหม่งเปลี่ยนทางเสียบมุมตาข่าย

นาทีที่ 67 มิดเดิ้ลสโบรช์ เกมเริ่มทำดีขึ้นตามลำดับ มีโอกาสลุ้นจากจังหวะที่ อัลเบิร์ต อโดมาห์ เปิดจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าเขตโทษให้ อดัม รีช ได้โหม่งแต่หลุดเสาสอง

นาทีที่ 74 ลิเวอร์พูล แก้เกมด้วยการส่ง มาริโอ บาโลเตลลี่ ลงมาล่าตาข่ายแทน ริคกี้ แลมเบิร์ต

นาทีที่ 77 ฝ่ายเดอะ โบโร่ มีโอกาสลุ้นประตูอีกครั้ง ในจังหวะที่ อดัม คเลย์ตัน แต่งบอลยิงไกลด้วยขวา 25 หลาหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเกือบเสียบมุม มินโญเลต์ บินปัดทิ้งไปได้

นาทีที่ 85 มิดเดิ้ลสโบรช์ เกือบได้ประตูชัยในช่วงท้ายเกม กิเก้ หลอกจ่ายบอลตัดหลังแนวรับเจ้าถิ่นให้ อดัม คเลย์ตัน หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงมุมแคบ บอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

ในช่วงเวลาที่เหเอิกเกริกนั้น ก็ไม่มีทีมใดทำประตูได้เพิ่ม จึงทำให้จบเกม 90 นาที ทีมลิเวอร์พูล กับ คณะมิดเดิ้ลสโบรช์ เสมอกันไป 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

โหมโรงเกมส์มาในช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 98 กรุ๊ปลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ส่ง ซูโซ่ ลงสนามมาแทน ลาซาร์ มาร์โควิช

นาทีที่ 109 เดอะ ค็อป เฮลั่น ครั้งมาได้ประตูแซงนำ 2-1 โฆเซ่ เอ็นริเก้ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ปาดเรียดเข้ากลาง จาเมล แบล็คแมน ปัดบอลมาเข้าทาง ซูโซ่ กดด้วยขวา บอลพุ่งเรียดเสียบตาข่าย

นาทีที่ 120+3 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บของการต่อเวลาพิเศษ โคโล่ ตูเร่ ออกลูกเหวอเข้าพรวดพราดไปตัดฟาวล์ใส่ แพทริค แบมฟอร์ด ในเขตโทษผู้ตัดสินเป่าทันที ก่อนที่ แบมฟอร์ด จักลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด โบโร่ ตีเสมอเป็น 2-2

ทำให้จบเกม 120 นาที เหล่าลิเวอร์พูล เสมอ คณะมิดเดิ้ลสโบรช์ 2-2 ต้องดวลจุดโทษหาผู้ชนะถัด

  1. คนที่ 1 พวกลิเวอร์พูล มาริโอ บาโลเตลลี่ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 1 พวกมิดเดิ้ลสโบรช์ แพทริค แบมฟอร์ด ผล ไม่เข้า ติดเซฟ


  1. คนที่ 2 เหล่าลิเวอร์พูล ลูคัส เลวา ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 2 ฝ่ายมิดเดิ้ลสโบรช์ อดัม เคลย์ตัน ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 3 กรุ๊ปลิเวอร์พูล อดัม ลัลลาน่า  ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 3 กรุ๊ปมิดเดิ้ลสโบรช์ อดัม รีช ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 4 คณะลิเวอร์พูล ซูโซ่ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 4 คณะมิดเดิ้ลสโบรช์ อัลเบิร์ต อโดมาห์ ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 5 คณะลิเวอร์พูล ราฮีม สเตอร์ลิง ผล ไม่เข้า ติดเซฟ
  2. คนที่ 5 ทีมมิดเดิ้ลสโบรช์ เยลเล่ วอสเซน ผล ยิงเข้า


** (ซัดเดิ้ลเดธ)
  1. คนที่ 6 คณะลิเวอร์พูล จอร์แดน วิลเลี่ยมส์ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 6 คณะมิดเดิ้ลสโบรช์ จอร์จ เฟรนด์ ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 7 กรุ๊ปลิเวอร์พูล โคโล่ ตูเร่ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 7 หมู่มิดเดิ้ลสโบรช์ ดาเนี่ยล อยาล่า ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 8 หมู่ลิเวอร์พูล มามาดู ซาโก้ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 8 กรุ๊ปมิดเดิ้ลสโบรช์ ไรอัน เฟรเดอริคส์ ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 9 หมู่ลิเวอร์พูล ฆาเบียร์ มานกีโย่ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 9 หมู่มิดเดิ้ลสโบรช์ เคนเน็ธ โอเมรูโอ ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 10 พวกลิเวอร์พูล โฆเซ่ เอ็นริเก้ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 10 เหล่ามิดเดิ้ลสโบรช์ ยานิค วิลด์ชุท ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 11 ฝ่ายลิเวอร์พูล ซิมง มินโญเลต์ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 11 ฝ่ายมิดเดิ้ลสโบรช์ จาเมล แบล็คแมน ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 12  หมู่ลิเวอร์พูล มาริโอ บาโลเตลลี่ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 12  กรุ๊ปมิดเดิ้ลสโบรช์ แพทริค แบมฟอร์ด ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 13 เหล่าลิเวอร์พูล ลูคัส เลวา ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 13 กลุ่มมิดเดิ้ลสโบรช์ อดัม เคลย์ตัน ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 12 ฝ่ายลิเวอร์พูล อดัม ลัลลาน่า ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 12 ฝ่ายมิดเดิ้ลสโบรช์ อดัม รีช ผล ยิงเข้า


  1. คนที่ 13 พวกลิเวอร์พูล ซูโซ่ ผล ยิงเข้า
  2. คนที่ 13 เหล่ามิดเดิ้ลสโบรช์ อัลเบิร์ต อโดมาห์ ผล ไม่เข้า หลุดกรอบ


ทำให้จบเกม เหล่าลิเวอร์พูล เอาชนะในช่วงดวลจุดโทษ ด้วยสกอร์ยืดยาวเป็นสถิติใหม่ของฟุตบอลลีกคัพ ผลบอลพรีเมียร์ลีก 14-13 สร้างผ่านเข้าสู่รอบที่ 4 ศึกแคปิตอล วัน คัพ ได้สำเร็จ

รายนามผู้เล่นทั้ง 2 กรุ๊ป

ทีมลิเวอร์พูล : 
  1. ซิมง มินโญเลต์ 
  2. ฆาเบียร์ มานกีโย่
  3. โคโล่ ตูเร่
  4. มามาดู ซาโก้
  5. โฆเซ่ เอ็นริเก้ 
  6. จอร์แดน รอสซิเตอร์ (จอร์แดน วิลเลี่ยมส์ น.79)
  7. ลูคัส เลวา 
  8. ลาซาร์ มาร์โควิช (ซูโซ่ น.98)
  9. อดัม ลัลลาน่า
  10. ราฮีม สเตอร์ลิง 
  11. ริคกี้ แลมเบิร์ต (มาริโอ บาโลเตลลี่ น.74)

สำรองไม่ได้ใช้ : 
  1. แบร็ด โจนส์ 
  2. มาร์ติน สเคอร์เทล
  3. อัลแบร์โต้ โมเรโน่
  4. ฟาบิโอ บอรินี่


ฝ่ายมิดเดิ้ลสโบรช์ : 
  1. จาเมล แบล็คแมน 
  2. ไรอัน เฟรเดอริคส์
  3. เคนเน็ธ โอเมรูโอ
  4. ดาเนี่ยล อยาล่า
  5. จอร์จ เฟรนด์ 
  6. อัลเบิร์ต อโดมาห์
  7. อดัม เคลย์ตัน
  8. แกรนท์ ลีดบิทเทอร์ (แพทริค แบมฟอร์ด น.112)
  9. อดัม รีช
  10. ลี ทอมลิน (เยลเล่ วอสเซน น.112)
  11. กิเก้ (ยานิค วิลด์ชุท น.76)

สำรองไม่ได้ใช้ : 
  1. ดิมิตริออส คอนสแตนโตปูลอส 
  2. เบน กิ๊บสัน
  3. เจมส์ ฮัสแบนด์
  4. เอมิลิโอ เอ็นซูเอ้


ผู้ตัดสิน : ไมค์ โจนส์

ไฮไลท์ฟุตบอล พวกลิเวอร์พูล VS พวกมิดเดิ้ลสโบรช์

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก >>> http://footballclubpza.blogspot.com/

เนื้อหาเพราะว่า Sanook

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557

ข่าวฟุตบอล : แอ็กเกอร์ พูดลาลิเวอร์พูล เพราะถกเถียงกับข้าวบีร็อด

ครันหรือไม่? หลังจากที่แอ็กเกอร์ แจงเหตุลา หงส์ เพราะว่าระบุว่าเป็นเพราะตนมีความเห็นไม่ตรงกับ ร็อดเจอร์ส สักอย่าง ตลอดทั้งฤดูกาล

เพราะดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ปราการหลังตัวแกร่งของ บรอนด์บี้ พวกชื่อดังแห่งศึกฟุตบอลลีกเดนมาร์ก เอ่ยปากให้สัมภาษณ์แจงวิเคราะห์บอลถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตนเเลื่องกเก็บข้าวของอำลา ลิเวอร์พูล จนกระทั่งช่วงซัมเมอร์ที่สร้างผ่านมา โดยระบุว่ามีปัจจัยมาจากการที่ความสัมพันธ์ระหว่างตนกับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือหนุ่ม นั้นดำเนินไปได้อย่างย่ำแย่ตลอดทั้งซีซั่น ทำให้ตนไม่มีทางเเล่าลือกอะไรทั้งสิ้นนอกเหนือจากการต้องแยกทาง ทั้งๆ ที่ตนก็รัก หงส์แดง หมดใจ

โดยที่ดาวเตะวัย 29 ได้กล่าววิเคราะห์บอลถึงเรื่องนี้ว่า ผมขอพูดแบบนี้แล้วกันนะ ผมกับผู้จัดการกลุ่มเรามีความเห็นกันไปคนละเรื่องเลยทีเดียวครั้นตลอดทั้งฤดูกาลที่แล้ว มันมีเหตุการณ์ระหว่างเราเกิดขึ้นมากมาย กับเหตุด้วยผม แค่นั่นมันก็เกินพอ ผมมีความรู้สึกว่าเขาไม่ปลื้มกับทุกสิ่งที่ผมมีศักยภาพในการนำเสนอ ด้วยกันจนกระทั่งผมรู้สึกแบบนั้น มันก็ถึงเวลาที่ผมจักต้องก้าวถัดไป ผมเป็นคนที่พูดตรงๆ ผมพูดสิ่งต่างๆ ตามที่ผมเห็น พร้อมทั้งผมก็คาดหวังให้ทุกคนทำแบบเดียวกับผม ซึ่งบางทีการคาดหวังแบบนั้นอาจจะไม่ควร

โดยทั้งนี้ ลิเวอร์พูล ชุดปัจจุบันที่ไร้เงาของ แอ็กเกอร์ นั้นเสียไปแล้วถึง 8 ประตู จากการลงสนาม 5 นัด ในการแข่งขันของซีซั่นนี้

เนื้อหาเพราะ http://footballclubpza.blogspot.com/

วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

สกู๊ปฟุตบอลพิเศษ วิเคราะห์บอลเหล่าลิเวอร์พูล และ ฝ่ายแมนฯยู “เราจะไม่มีวันอย่างเดินเดียวดาย”

ชมไฮไลท์พรีเมียร์ลีก เลสเตอร์ ซิตี้ 5-3 แมนฯยูไนเต็ดคลิ๊กที่นี่

ชมไฮไลท์พรีเมียร์ลีก เอฟเวอร์ตัน 2-3 คริสตัล พาเลซคลิ๊กที่นี่


==================================

มาดูสกู๊ปพิเศษ กรุ๊ปลิเวอร์พูล - เหล่าแมนฯยู 

“เราจะไม่มีวันอย่างเดินเดียวดาย”


วิเคราะห์บอล : เนื่องด้วยเกมในศึกพรีเมียร์ลีก ของอาทิตย์นี้ แฟนๆของทั้ง ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล คงจะเซ็งไปตามๆกัน เนื่องจากว่าทั้งสองคณะ ต่างโดนหมู่เล็กกว่าอัดซะเละไม่พ่ายแพ้กัน เลยกลายเป็นว่าทั้งสองคณะต่างก็ปราชัยเป็นเพื่อนกันซะงั้น

ซึ่งหลังจบเกมพรีเมียร์ลีก สุดอาทิตย์ นี้ มีเรื่องให้พูดถึงมากมาย ระหว่างที่เขียนการแข่งขัน ระหว่าง เหล่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ฝ่ายเชลซี  ที่กำลังริเริ่มขึ้น เราจักไม่พูดถึงเรื่องนั้นแต่ เรามาพูดถึงความพ่ายปราชัยของ กลุ่มปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อ เลสเตอร์ ซิตี้ด้วยสกอร์ 5-3

เพราะที่ก่อนหน้าเกมนี้ พอวัน เสาร์ที่ผ่านมากรุ๊ป หงส์แดง ลิเวอร์พูล คู่แค้นตลอดชาติของ กรุ๊ปแมน ฯ ยูไนเต็ด ก็พลาดท่า บุกไปโดนฝ่าย ขุนค้อน เวสต์แฮม ทุบซะเละ 3-1 ถือเป็นการพ่ายพ่าย นัดที่ 3 แล้ว ในฤดูกาลนี้ ทั้งที่เพิ่งเปิดฤดูกาลไปแค่ 5 นัดเท่านั้น


ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัด ๆ ในฤดูกาลนี้ของฝ่ายฟุตบอล หงส์แดง คือ แนวรับที่อ่อนอย่างกับหยวกกล้วย โดนบอมมากๆเข้าออกอาการเป๋ ให้เห็นกันตลอด อย่างในเกมที่ พวกเขาพ่ายต่อหมู่ แอสตัน วิลล่า ประตูชัยของวิลล่า ก็มาจากจังหวะเตะมุม

พร้อมกับในเกมที่พวกเขาพ่าย หมู่เวสต์แฮม ฯ แทบแค่ 10 นาทีแรกโดน พวกขุนค้อน ทะลวงไป 2 ลูก นี่เป็นจุดอ่อนของลูกพวก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ยังแก้ไม่หายซักที ช่วงซื้อ-ขาย ตลาดนักเตะซัมเมอร์พวกเขา เจียด 20 ล้านปอนด์ ดึง เดยัน ลอฟเลน มาปักหลักแนวรับให้กับเหล่า แต่ดูเหมือนว่า ลอฟเลน ยังไม่เข้าขากับ คู่เซ็นเตอร์แบ็คของ ลิเวอร์พูล ทั้ง มามาดู ซาโก้ กับ มาร์ติน สเคอร์เทล


เพราะที่ในเกมรุกของพวกเขา ที่มี 1.มาริโอ บาโลเตลลี่, 2.ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นตัวชูโรงในช่วงที่ แดเนียลสเตอร์ริดจ์ บาดเจ็บ ก็ยังประสานงานกันไม่ดี กองกลางยิงแล้วเข้าไปใหญ่ ทั้ง 1.อดัม ลาลาน่า, 2.ลาร์ซ่า มาร์โควิช, 3.ฟิลิปเป้ คูตินโญ, 4.ลูคัส เลว่า, 5.เจอร์ราร์ด, 6.เฮนเดอร์สัน ก็ยังประสานงานกันได้ไม่ดี บอลไปถึงกองหน้าน้อยมาก ต้องอาศัยเจาะเข้าด้านข้างแล้วเปิดเข้ากลางมาลุ้นประตู สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่ ร็อดเจอร์ส ต้องปรับแก้ไขอย่างเร่งด่วน

กับลองข้ามฝากมาดูเหล่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมในวัน อาทิตย์ เป็นเหมือนฝันร้ายของลูกหมู่ หลุยส์ ฟาน กัล ตราบใดพวกเขาทำประตูหนีห่าง ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ไปถึงสองครั้งสองคราแต่ก็โดนลูกกรุ๊ปของ ไนเจล เพียร์สัน ไล่ตามตีเสมอได้สำเร็จ ก่อนที่จะเร่งเครื่องในช่วงท้ายแซงชนะ คณะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ผลบอล 5 - 3 ซึ่งถือเป็นชัยชนะต่อ กรุ๊ปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ในรอบ 29 ปี อีกด้วย


เพราะว่าที่ไฮไลท์ที่สำคัญของเกมนี้คงหนีไม่พ้น 2 จุดโทษ ที่ มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก เป่าให้กับ พวกเลสเตอร์ ซิตี้ จุดโทษแรก ราฟาเอล พลาดไปโดน เจมี่ วาร์ดี้ กระแทกแล้วฉกบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ราฟาเอล วิ่งตามไปกดเจ้าตัวล้มลงในเขตโทษแล้วโดนจุดโทษ

ด้วยกันหลังจากนั้นไม่นานโปรแกรมฟุตบอล แมนฯ ยูไนเต็ด โดน เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ ยิงตีเสมอ แล้วแนวรับพวกเขาก็รวนปั่นป่วน การตรึงเกมไว้เพื่อที่จักจู่โจม ฝ่ายเลสเตอร์ ทำได้ไม่ดี ฆวน มาต้า โดนฉกบอลไปแล้ว โดน วาร์ดี้ ลงโทษทันที

ซึ่งหลังจากโดนนำ ดูเหมือน กรุ๊ปยูไนเต็ด จักช็อกไม่หายแล้ว ทำให้กลุ่ม เลสเตอร์ อาสัยจังหวะสวนกลับเร็ว มาเข้าทาง วาร์ดี้ อีกครั้ง แล้ว ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ ก็ไปเสียบสกัด วาร์ดี้ ล้มลงในกรอบเขตโทษแบล็คเก็ตต์ โดนใบแดงทันที อูยัว สังหารจุดโทษไม่พลาด กรุ๊ปแมนฯ ยูไนเต็ด พ่ายจำนนอีกครั้งกับ ชนะ พ่างแค่เกมเดียว ใน 5 เกมแรกของฤดูกาลนี้

พร้อมด้วยสิ่งที่เห็นจากทั้ง 2 กลุ่ม ไม่ว่าจักเป็น ทีมลิเวอร์พูล หรือไม่ก็ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือการประสานงานของแข้งเก่าพร้อมกับใหม่ที่ยังไม่เนียนสนิท ด้วยกันเกมรับที่อ่อนหลวมโดนบอมไม่นานก็เสียประตู


ซึ่งแม้ว่า ซัมเมอร์ที่ลอดมา กรุ๊ปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จักใช้เงินซื้อผู้เล่นมากถึง 157.7 ล้านป. ซึ่งได้ซื้อผู้เล่นตัวดีๆเข้ามาเสริมในกรุ๊ปมากมาย แต่ก็ยังต้องการเวลาปรับจูนอีกมาก

ก็คงเป็นเช่นเดียวกับพวกดังฝั่ง เมอร์ซี่ไซด์ ที่ยังต้องการเวลาปรับจูนเข้าถ้าันของแข้งเก่าพร้อมกับใหม่อีกซักพัก พรีเมียร์ลีก ยังเป็นลีกที่แข็งแกร่ง ทุกกรุ๊ปทำได้ชนะกันได้ทุกคณะ ความสนุกเพิ่งจะเริ่มต้นต้นเท่านั้น

ถึงแม้ว่าสัปดาห์นี้ คณะแมน ฯ ยูไนเต็ด จะมีเพื่อนจำนนด้วยกัน อย่าง คณะลิเวอร์พูล ก็คงต้องดูกันยาวๆ ตะกลามจักขอใช้สโลแกนที่ว่า เราจะไม่มี วันเดินเดียวดาย แต่เราจักอับอายไปด้วยกัน กับทั้งสองกรุ๊ปนี้นะครับ


==================================

ข่าวร่ำลือ? กลุ่มผีแดงยัดออปชั่นส่งฟัลเกากลับสมมุติเกิดเดี้ยงซ้ำ

นักไม่ก็เปล่านะ หลังจากที่ พวกปีศาจแดง ได้ยัดเงื่อนไขในคำมั่นกู้ยืม ราดาเมล ฟัลเกา ชี้ถ้าเจ็บเข่าอีกมีสิทธิ์ส่งตัวคืน กรุ๊ปโมนาโก ได้ทันที

ซึ่งกลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ตกเป็นข่าวว่าทำได้ยกเลิกคำมั่นการยืมตัวของ ราดาเมล ฟัลเกา หัวหอกตัวกลั่นของคณะที่กู้ยืมตัวมาจาก อาแอส โมนาโก ในศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส ได้อย่างไม่มีปัญหา หากว่ากองหน้าคณะชาติโคลอมเบียรายนี้ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าอีกครั้ง หลังจากที่เจ้าตัวเคยบาดเจ็บอย่างหนักมาแล้วที่บริเวณหัวเข่าตราบฤดูกาลก่อน จนต้องพักรักษาตัวนานหลายเดือนเลยทีเดียว

โดยจากรายงานดังกล่าวได้ระบุว่า กลุ่มปีศาจแดง ยังค่อนข้างเป็นกังวลกับสภาพร่างกายของ เอล ติเกร ที่แม้จะสร้างผ่านการตรวจร่างกายกับกลุ่มแพทย์ของคณะมาแล้วก็ตาม จึงส่งผลให้ เร้ด เดวิลส์ เพิ่มเงื่อนไขในการยกเลิกสาบานขอยืมตัวของ ฟัลเกา อยู่ในข้อตกลงด้วย ซึ่งสมมติว่ากองหน้าเลือเลื่องด โคเคน ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าอีกครั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีสิทธิ์ที่จะส่งตัว ฟัลเกา กลับต้นสังกัดที่แท้ครันอย่างกรุ๊ป โมนาโก ได้ทันที

==================================

เฮียมู ไม่ติดใจแลมพ์ส หลังซัดประตูสิงห์พร้อมทั้งพอใจผลบอลเจ๊าเรือ


ทางด้านของ เดอะ สเปเชี่ยล วัน ยันว่า ไม่ติดใจดราม่า! แลมพ์ส ทะลวงตาข่ายกลุ่มเก่า กรุ๊ปสิงห์บลูส์ ชมสมกับเป็นมืออาชีพแล้ว พร้อมรับ พอใจแบ่งแต้มกับ ฝ่ายเรือใบสีฟ้า

ทางด้านของโชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการคณะจอมอหังการของ กลุ่มเชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกโปรแกรมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ยืนยันว่า ตนนั้นไม่ติดใจอะไรกับการที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ดาวเตะจอมเก๋าของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิงประตูใส่ต้นสังกัดเก่า พวกสิงโตน้ำเงินคราม ช่วยให้ หมู่เรือใบสีฟ้า ไล่ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จครั้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ตัดผ่านมา 21 กันยายน พร้อมกับชื่นชมว่านักเตะทำหน้าที่ได้สมกับเป็นมืออาชีพอย่างแท้เป็นแน่แท้

เพราะว่าที่ แลมพ์ส ได้ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามมาในช่วงนาทีที่ 78 ซึ่งขณะนั้นกรุ๊ป แมนฯ ซิตี้ ตามหลัง พวกเชลซี อยู่ 0-1 แต่อีกปาง 7 นาทีต่อมาเจ้าตัวก็มายิงประตูตีเสมอให้ เหล่าเรือใบสีฟ้า ไล่มาเป็น 1-1 อย่างไรก็ตาม มูรินโญ่ ก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับการที่นักเตะยิงประตูใส่ต้นสังกัดเก่า พร้อมกับชื่นชมในความเป็นมืออาชีพ เพราะว่าให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวผมไม่ได้ติดใจอะไรทั้งสิ้น แลมพาร์ด เป็นผู้เล่นของ พวกแมนฯ ซิตี้ แล้ว แม้บางทีผมจักแน่แท้จังกับเรื่องฟุตบอลไปเสียหน่อย แต่ครั้นเขาได้ตกลงใจมาเป็นคู่แข่งของ ทีมเชลซี เรื่องของความรักมันก็ไม่เกี่ยวกันแล้ว

พร้อมทั้งเขายังได้พูดต่ออีกว่า แลมพ์สเขาก็ทำหน้าที่ของเขาได้ดีในฐานะเป็นมืออาชีพ พร้อมกับเขาก็ยิงประตูได้ ที่นี่คือ อังกฤษ กับนี่คือกรุ๊ป เชลซี แต่แฟน ฝ่ายเชลซี ไม่เคยลืมเลยว่าเขาได้ทำอะไรไว้ให้กับสโมสรแห่งนี้บ้าง พร้อมกับมันก็เคยเกิดขึ้นกับผมมาแล้วตอนที่ผมเจอกับ ทีมเชลซี ในฐานะกุนซือของ ทีมอินเตอร์ มิลาน พร้อมทั้งระยะนี้มันก็เกิดขึ้นกับ แลมพ์ส

ซึ่งพร้อมกันนี้ทาง เดอะ สเปเชี่ยล วัน ยังรู้สึกพอใจกับผลบอลที่ออกมาเสมอ 1-1 กับ ทีมแมนฯ ซิตี้ พร้อมกับแบ่งกันไปทีมละแต้ม โดยได้กล่าวว่า มันเป็นเกมใหญ่ พร้อมด้วยผมคิดว่าบางที่การจบลงที่ 1-1 มันก็เป็นผลที่แฟร์สุดแล้ว

==================================

สื่อออกมาแฉ! พวกผีนำ2ลูกแพ้คู่แข่งครั้งแรกในศึกพรีเมียร์ลีก


ทางด้านหลุยส์ ฟาน กัล กุมขมับ สื่อผู้ดีขุดสถิติแฉ หลังเกมพ่าย กรุ๊ปจิ้งจอกสยาม 3-5 ชี้ เหล่าปีศาจแดง พ่ายคู่แข่ง ทั้งที่เป็นฝ่ายนำอยู่ 2 ลูก ครั้งแรกในประวัติบุคคลศาสตร์นับตั้งแต่มีการก่อตั้ง พรีเมียร์ลีก

ซึ่งหลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมเก้าอี้ร้อนของสโมสรฟุตบอล หมู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คณะดังจากศึก พรีเมียร์ลีก สร้างสถิติที่ไม่กระหายจดจำขึ้นมาอีกครั้ง หลังเกมที่พวกเขาบุกไปพ่ายต่อ พวกเลสเตอร์ ซิตี้ 3-5 เท่าที่คืนวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายนที่สร้างผ่านมา ครั้นเมื่อสื่อของเมือง ผู้ดี แฉว่า นี่ถือเป็นครั้งแรกในความเป็นมาศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก ที่ พวกปีศาจแดง พ่ายต่อคู่แข่ง ทั้งที่พวกเขาเป็นฝ่ายนำก่อนถึง 2 ประตู

ด้วยกันทางสื่อโปรแกรมบอลดังกล่าวยังได้เปิดแสดงตัวว่า นับตั้งแต่ที่พรีเมียร์ลีก เริ่มต้นก่อตั้งมาจนกระทั่งปี 1992 ทัพ ทีมปีศาจแดง ยิงประตูนำคู่แข่ง 2 ลูกไปทั้งหมด 375 หน ซึ่งผลจบลงด้วยชัยชนะของ เหล่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 363 ครั้ง เสมอ 11 ครั้ง ด้วยกันเพิ่งจักพ่ายแพ้แค่ครั้งเดียว นั่นคือแพ้ให้กับ ทัพ เหล่าจิ้งจอกสยาม ในเกมล่าสุด

โดยนอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยการวิเคราะห์บอลพรุ่งนี้สถิติอีกหลายรายการ ที่เกิดขึ้นในเกมดังกล่าว เช่น พวกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นกรุ๊ปใน พรีเมียร์ลีก ที่เสียจุดโทษให้กับคู่แข่งมากครั้งที่สุด ตลอดปี 2014 (6 ครั้ง เท่ากับ กรุ๊ปท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์), หมู่เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นกลุ่มที่ 6 ที่พังตาข่าย คณะปีศาจแดง ได้ 5 ประตูขึ้นไปในเกม พรีเมียร์ลีก ต่อจาก เหล่านิวคาสเซิ่ล, กลุ่มเซาธ์แฮมป์ตัน, คณะเชลซี, พวกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ กลุ่มเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

==================================

ทางด้านบาโลได้โพสต์เรียกแขก!

หลังเจอเดนคนรุมเหยียดสีผิว

ภายหลังที่ บาโล ได้เจอดีถูกเกรียนคีย์บอร์ดโพสต์เหยียดผิวในทวิตเตอร์ หลังเจ้าตัวโพสต์เย้ย หมู่ปีศาจแดง ที่ปราชัย กรุ๊ปจิ้งจอกสยาม 3-5 ด้านตำรวจเตรียมหาหลักฐานดำเนินคดี

เพราะว่าหลังจากที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าฟุตบอลสติเฟื่องของ เหล่าลิเวอร์พูล สโมสรขวัญใจมหาชนแห่งเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เจอดีเข้าให้แล้วทันทีที่ถูกแฟนบอลรายหนึ่งเหยียดผิวใส่พ้นทางทวิตเตอร์ หลังจากที่กองหน้าเหล่าชาติอิตาลี โพสต์ข้อความในทำนองเย้ยหยันความพ่ายพ่ายของ เหล่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่บุกไปพ่ายสโมสรน้องใหม่อย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ 3-5 ทันทีที่วันที่ 21 กันยายนที่พ้นมา

ซึ่ง เกรียนโอ้ ยังคงสร้างวีรกรรม เกรียน อย่างต่อเนื่อง เพราะภายหลังที่คู่ปรับตลอดกาลอย่าง กลุ่มปีศาจแดง บุกไปพ่าย กลุ่มจิ้งจอกสยาม 3-5 บาโลเตลลี่ ได้โพสต์ข้อความเชิงหัวเราะเยาะเย้ยผลงานของทัพ เร้ด เดวิลส์ ก่อนจะมีบรรดาแฟนบอลเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมายถึง 150,000 ข้อความ พร้อมกับมีหลายข้อความที่เป็นการเหยียดผิวเพราะตรงใส่หัวหอกเชื้อสายกาน่ารายนี้ด้วย

ด้วยกันล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเมอร์ซี่ไซด์ ได้เตรียมหาหลักฐานเพื่อมาลงโทษแฟนบอลนิสัยเสียกลุ่มดังกล่าวให้เร็วที่สุด แม้ว่าบัญชีสารบาญของผู้ก่อเหตุจะถูกลบทิ้งไปแล้วก็ตาม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรอรายงานจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีนำผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้

วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557

วิเคราะห์ผลบอล UFA นินทาจะเสียมิ่งกันหรือว่าเวิ้งว้าง?



ภายหลังที่บรรดาพวกจากศึกโปรแกรมพรีเมียร์ลีก ออกสตาร์ตนัดแรกในถ้วยใหญ่ของยุโรปแบบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ค่อนข้างกระท่อนกระแท่นกันถ้วนหน้า

มาวิเคราะห์บอล ริเริ่มแรกที่ทีม ลิเวอร์พูลนั้นต้องทะลวงโปรแกรมบอลเหนื่อยแบบขาดใจในบ้านตัวเองกว่าจะเก็บ 3 แต้มล้ำค่าได้ต้องใช้ช่วงเวลาทดเจ็บมารักษาหน้า ในขณะที่เชลซีได้แค่แค่แบ่งแต้ม แม้ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรมากมาย แต่ถ้วยยุโรปเกมในบ้านเพื่อความชัวร์ต้อง 3 แต้มเอาไว้ก่อน

ตามมาด้วยกลุ่มอาร์เซนอล กับ ฝ่ายแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงกับไม่มีแต้มติดมือ 2 เหล่าดังจากพรีเมียร์ลีก ออกนอกบ้านไปเสียท่าให้กับยอดเหล่าของบุนเดสลีกาอย่าง พวกดอร์ทมุนด์ และ คณะบาเยิร์น มิวนิค



เรียกได้ว่าตารางบอล หายนะกันไม่ใช่หรือเปล่า ไม่ถึงขนาดนั้นแน่นอน ดูกนด้วยความเป็นธรรมมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว อาร์เซนอลไปเยือนดอร์ทมุนด์ได้สักแต้มก็พอใจแล้ว แต่ถึงขั้นปราชัยมันก็อยู่บนพื้นฐานของความเป็นแท้

เพราะเหล่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปเยือน ฝ่ายบาเยิร์น มิวนิค ได้สักแต้มก็โอเคเช่นกัน ทว่ากลับบ้านมือเปล่าก็อยู่บนพื้นฐานของความเป็นแน่นอน

ทางด้านของหมู่ลิเวอร์พูลควรจะดูสบายๆมากกว่าใครเกือบเอาตัวไม่รอด ดูจากฟอร์มก็ไม่ถึงกับเซอร์ไพรส์ ผลงานของพวกเชลซีน่าเสียดายหน่อย ฟอร์มกำลังแรงความมั่นใจกำลังสุดขีด เล่นในบ้านคาดหวังกันเต็มที่

ซึ่งไม่ง่ายอยู่แล้วกับการเจอฝ่ายยักษ์ใหญ่ของบุนเดสลีกา ทีมอาร์เซนอลหวังสร้างโอกาสส่องประตู ฝ่ายดอร์ทมุนด์ได้น้อยมาก ยิงเข้ากรอบแค่ครั้งเดียว



ทางด้านกลุ่มแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่แตกต่างเท่าไหร่ในเรื่องนี้ ซึ่งสร้างโอกาสในการยิงเข้ากรอบแค่ 2 ครั้ง แต่รูปเกมของหมู่เรือใบอาจจะดูมั่นคงกว่า กรุ๊ปอาร์เซนอล

โดยจากประสบการณ์ด้านลบ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นสามารถเป็นบทเรียนที่ดีได้ พร้อมกับการพัฒนาตัวเองจักเกิดขึ้น อาร์เซนอลเสียประตูในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเป็นจุดเปลี่ยนของเกมไปเลย หมู่เรือใบสีฟ้าเสียประตูนาทีสุดท้ายหมดโอกาสที่จะกลับตัวกลับใจได้อีก

ซึ่งเรื่องราวแบบนี้ถ้าเรียนรู้และเป็นประสบการณ์ที่ได้รับการพัฒนามันเป็นได้ยกระดับตัวเองได้ มองไปที่ประเด็นผลบอลของกลุ่มแมนเชสเตอร์ ซิตี้

และคณะไม่ศักยที่จักชะลอการพัฒนาตัวเองในถ้วยยุโรปได้ 3-4 ปีที่ทะลวงมาได้รับรู้กันแล้วว่าในถ้วยนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายพร้อมด้วยประสบการณ์คือเรื่องใหญ่



กรุ๊ปฟุตบอลแมนซิตี้มีเกมที่แพ้ในถ้วยนี้มากมายอย่างยิ่ง รวมเกมที่เพิ่งพ่ายให้กับเสือใต้น่าจักมีเกมที่ปราชัยมากกว่าเกมที่ชนะ แน่นอนว่า ฝ่ายเรือใบมีนักเตะฝ่ายชาติต่าง ๆ มากมายซึ่งกลุ่มใหญ่หมู่อื่นมีเหมือนกัน

เหมือนแต่ว่าประเด็นที่แตกต่างก็คือมีนักเตะเรือใบน้อยมากที่เล่นในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีกในรอบลึก ๆ พรรค์รอบรองชนะเลิศหรือว่านัดชิงชนะเลิศ

ซึ่งในหลายช่วงเวลา หลายสถานการณ์ภายหลังเปลี่ยนเรื่องราวนั้นไป บ่อยครั้งมากที่เรามักจักพูดถึงประสบการณ์ จักว่าไปแล้วมันเกี่ยวข้องสุทธิๆ

เหตุด้วยสถานการณ์การแข่งขันฟุตบอลที่กดดันสุดๆ ช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่ต้องใช้ความนิ่ง มีสมาธิเข้าช่วย ประสบการณ์ของทีม ประสบการณ์นักเตะแต่ละคนมีผลแท้ๆ

พร้อมทั้งอีกประเด็นหนึ่งซึ่งตอกย้ำพร้อมทั้งยืนยันกันอีกครั้งมาตรฐานของเหล่าขากบุนเดสลีกาไม่ธรรมดา ยกระดับขึ้นเรื่อยๆนอกจากคณะบาเยิร์น มิวนิค กับ หมู่ดอร์ทมุนด์ ที่เหเลื่องชื่ออาจจักไม่ถึงกับหวือหวา ทว่ามาตรฐานอยู่ในขั้นดีทั้งนั้น

โดยในระดับคณะชาติฟุตบอล คณะเยอรมัน มาตรฐานสูงมากๆ ซึ่งรากฐานก็มาจากการจัดการระดับสโมสร อย่าว่าแต่ระดับสโมสรต้องมองมาตรฐานพร้อมกับรากฐานของเหล่าจากบุนเดสลีกาเลย ระดับชาติก็ยังต้องดูเป็นตัวอย่าง

นักเตะอย่าง แวงซ็องต์ กอมปานี กัปตันกลุ่มแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่าเรือใบพร้อมที่จักไปให้ถึงการรับถ้วยแชมป์ ทว่าทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ

เพราะการพ่ายให้กับทีมบาเยิร์น มิวนิค บ่งสนทนาว่าทุกอย่างของเรือใบยังไม่ถึงระดับนั้น อย่างไรก็ตามเป็นพ่างแค่เกมนัดแรกยังมีเรื่องราว รวมทั้งเกมที่จักทำให้ผ่านอุปสรรคเข้าไปสู่รอบน็อกเอาท์อีกท่วมท้น

และในเรื่องนี้ ทุกฝ่ายต่างมองเห็นข้อด้อยของตัวเอง ซึ่งต้องแก้ไขกันไป แต่ละก้าวแต่ละนัดทำได้เรียนรู้ด้วยกันยกระดับตัวเองได้เสมอ ใครจะทำได้ดีกว่ากันเท่านั้นเอง

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557

วิเคราะห์บอล แกรี่ เชื่อว่าสตาร์ผีจักช่วยเหลือดูดดูดโด้กลับบ้านพร้อมทั้งข่าวคราวฟุตบอลอื่นๆอีกหนาหูหนาตา



รุ่นพี่แกรี่ เชื่อว่าสตาร์ผีจักช่วยดึงดูดโด้กลับบ้าน



ทันทีที่ทางเนวิลล์ผู้พี่ ได้เชื่อการที่กรุ๊ป ศกศาจแดง ดึงสตาร์ดังอย่าง ดิ มาเรีย ไม่ใช่หรือ ฟัลเกา เข้ามาในกลุ่ม จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ โด้ กลับสู่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นไปได้มากยิ่งขึ้น

หลังจากที่แกรี่ เนวิลล์ อดีตแบ็กขาวพวกชาติอังกฤษ ด้วยกันอดีตกัปตันหมู่ของสโมสรกรุ๊ป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กรุ๊ปยักษ์ใหญ่ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เชื่อว่าโอกาสที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกตัวเก่งของหมู่ เรอัล มาดริด จะย้ายถิ่นกลับมายังถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มีความเป็นไปได้มากขึ้นแล้ว หลังจากที่ทัพกลุ่ม ปีศาจแดง เสริมนักเตะชั้นดีอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย ด้วยกัน ราดาเมล ฟัลเกา เข้ามาในช่วงซัมเมอร์

ซึ่งเนวิลล์ผู้พี่ นั้นได้ทำหน้าที่เป็นผู้สันทัดกรณีของสถานีโทรทัศน์ เพราะว่าที่สื่อ สกายสปอร์ต ไดกล่าวว่า มันเป็นข่าวลือกระฉ่อนมาร่วมพรรษาแล้ว ช่วงซัมเมอร์นี้ก็มีการพูดถึงเหมือนกัน แล้วก็มีข่าวตามออกมาว่า โรนัลโด้ ไม่มีความสุขกับ หมู่เรอัล มาดริด แม้ว่าศักราชที่แล้วเพิ่งจะคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเชันษา้ยนส์ ลีก ได้ก็ตาม คำถามแรกคือเขาอิ่มตัวกับ มาดริด ใช่ไหมยัง ส่วนเรื่องที่เขารัก พวกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ใช่หรือเปล่านั้นไม่ต้องสงสัยอยู่แล้ว

และอาจจะพูดได้ว่าการที่เรามีทั้ง ดิ มาเรีย พร้อมกับ ฟัลเกา ทำให้มันมีโอกาสมากขึ้น มันต้องเป็นแบบนั้น เพราะว่าหมู่แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาสุทธิจังกับการดึงนักเตะระดับโลกเข้ามาสู่พวก เราเคยพูดกันไปคราว 3 ใช่ไหม 4 เดือนก่อน กับคำถามที่ว่าฝ่าย แมนฯ ยูไนเต็ด จักยังคงดึงดูดนักเตะชั้นนำเข้ามาได้หรือไม่ก็ไม่ ซึ่งเรื่องนี้เห็นได้ชัดเลย แบ็กขวารุ่ง คลาสออฟ 92 ร่ายยาว



เป็นไปได้ไง ปางรูนี่ย์ชนะดิมาเรียวิ่งเร็วสุดในกรุ๊ป


คงจักไม่เชื่อ หลังหมูรูน ได้กลายเป็นคนวิ่งเร็วสุดในทัพฟุตบอล พวกผีแดง เกมอัดฝ่าย คิวพีอาร์ผลบอล 4 - 0 ซึ่งความเร็วอยู่ที่ 32,7 กม เหนือกว่าเจ้าแห่งความเร็วอย่าง ดิ มาเรีย ที่อุตส่าห์วิ่งได้ถึง 32,3 กม เสียอีก

โดยเมื่อ เวย์น รูนี่ย์ ศูนย์หน้าสุกรพิฆาตของ หมู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นผู้เล่นที่วิ่งได้เร็วสุด ในเกมที่หมู่ของเขาเปิดรังถล่ม กลุ่มควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 4-0 จนกระทั่งวันเสาร์ที่ 13 กันยายนที่ลอดมา เอาชนะ อังเคล ดิ มาเรีย ชันษากตัวใหม่ที่มีจุดเด่นตรงความเร็วไปได้อย่างเหลือกระฉ่อนเชื่อ

ซึ่งหัวหอกกัปตันฝ่าย วิ่งสพรรษาดในจังหวะฉีกตัวหนี ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตเซนเตอร์ฮาล์ฟเพื่อนร่วมกรุ๊ป ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดในเกมดังกล่าวของเจ้าตัว 


  1. เพราะว่าวัดได้ 20,3 ไมล์ต่อชั่วโมงไม่ก็ 32,7 กิโลเมตร ซึ่งมากกว่า 
  2. ดิ มาเรีย ที่วัดได้ 20,1 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือไม่ 32,3 กิโลเมตร พร้อมกับตามมาด้วย 
  3. อันดับที่สาม อันโตนิโอ วาเลนเซีย นั้นเป็นอันดับที่ 3  20 ไมล์ต่อชั่วโมง


พร้อมทั้งในส่วนของนักเตะที่วิ่งได้ระยะมากสุดตกเป็นของ 


  • อันเดร เอร์เรร่า อีกหนึ่งมิดฟิลด์ตัวใหม่ของ ฝ่ายปีศาจแดง เพราะว่าทำระยะไป 7,6 ไมล์ไม่ใช่หรือ 12,2 กม. 
  • ดาลี่ย์ บลินด์ คู่มิดฟิลด์ตรงกลางในเกมนั้น เพราะว่าวิ่งไป 7,4 ไมล์หรือไม่ก็ 11,9 กม 


ส่วนผู้ที่ทำสถิติทั้ง 2 อย่างได้ต่ำที่สุด พร้อมกับไม่นับผู้รักษาประตู กลับกลายเป็น 

  • อัดนาน ยานาไซ เพราะวิ่งเร็วสุดที่ 15,9 ไมล์ต่อชั่วโมงใช่ไหม 25,7 กม 
  • ทำระยะไป 0,9 ไมล์หรือไม่ก็ 1,5 กม ซึ่งเจ้าตัวได้ลงสนามแทบ 8 นาทีเท่านั้น






ครั้งทางฮอตชอต ชี้สาลิกามีคุณสมบัติพร้อมตกชั้น




ภายหลังที่เชียเรอร์ ได้ออกมาเตือนว่าฝ่าย สาลิกา ระมัดระวังตัวเองไว้ให้ดี เนื่องจากว่าประเดี๋ยวนี้ทีมมีคุณสมบัติของการร่วงตกชั้นครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นหลังเปียกเยี่ยงทิชชู่ กับหน้าทื่ดั่งสากกะเบือ

ขณะ อลัน เชียเรอร์ ตำนานกองหน้าจอมถล่มประตูของกลุ่ม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พวกชื่อดังแห่งศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เมือง ผู้ดี ออกโรงวิเคราะห์ผลบอลแสดงความเป็นห่วงฟอร์มของทัพ ทีมสาลิกาดง ในช่วงออกสตาร์ทของการแข่งขันซีซั่นนี้ โดยระบุว่าตนไม่เห็นวี่แววของการที่ฝ่ายจักพังประตูได้เลยในแต่ละเกม เช่นเดียวกับความอ่อนหัดในแนวรับอันเปื่อยยุ่ยที่เหมือนพร้อมจักถูกเจาะตาข่ายอยู่เสมอในทุกๆ วินาที ซึ่งนี่ถือเป็นคุณสมบัติสำคัญของกรุ๊ปที่เตรียมตัวร่วงตกชั้น

เพราะที่ ฮอตชอต ซึ่งเป็นเจ้าของสถิติกระซวก 206 ประตู จากการลงสนาม 404 นัดให้กับ นิวคาสเซิ่ล กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กรุ๊ปนิวคาสเซิ่ล เป็นพวกที่เหมือนไม่มีแววจักยิงประตูได้ และก็ไม่มีแววที่จะพร้อมรักษาคลีนชีตเช่นกัน นี่เป็นใบเสร็จชั้นดีของพวกที่กำลังจักร่วงตกชั้น พร้อมทั้งกุนซือใหญ่อย่าง อลัน พาร์ดิว ก็กำลังอยู่ในภาวะกดดันอย่างหนัก

โดยที่ฟอร์มการเล่นของหมู่ในนัดแพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน 0 - 4 เป็นอะไรที่พูดได้ว่าห่วยตั้งแต่ต้นยันจบ นิวคาสเซิ่ล จำเป็นจักต้องโหมโรงเก็บชัยชนะให้ได้แล้วในช่วงนี้ เพราะว่าถ้าคุณยิ่ง ปลดให้เวลาตัดผ่านไปเท่าไหร่ การเก็บชัยชนะสักนัดหนึ่งมันก็จักยากขึ้นเรื่อยๆ ความกดดันก็จะถาโถมเข้ามามากขึ้นไปอีก เชียเรอร์ ร่ายยาว

พร้อมด้วยเหตุด้วยหมู่ นิวคาสเซิ่ล นั้นออกสตาร์ทเกมลีกในซีซั่นนี้ไปแล้ว 4 นัด ยังไม่ทำเป็นเก็บชัยชนะได้เลย แบ่งเป็นเสมอ 2 พ่าย 2 รั้งอยู่อันดับ 20 ของตาราง



ทางด้านอิมโมบิเล่ สุดโล่งเปิดฉากต้น|เปิดตัวแรก}ตุงแรกเสือเหละบืองแล้ว


คงเป็นที่แจ้งเกิดเต็มตัว จนกระทั่งอิมโมบิเล่ ยอมรับ เหมือนยกภูเขาออกจากอก หลังซัดประตูแรกในสีเสื้อ คณะเสือเหเลื่องง ได้สำเร็จ เกมเปิดรังอัด ฝ่ายปืนใหญ่ 2 - 0 ศึกชปล รอบแบ่งกลุ่ม

ทางด้านของชิโร่ อิมโมบิเล่ ศูนย์หน้าตัวใหม่ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยักษ์ใหญ่แห่งศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน ออกมายอมรับว่าเขารู้สึกโล่งใจแบบสุดๆ หลังบุกเบิกต้น|ริเริ่มแรก}ประตูแรกให้กับต้นสังกัดใหม่ได้เสียที ยังเกมเปิดรัง ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค เอาชนะ กลุ่มอาร์เซน่อล ไป 2 - 0 ในศึก ยูฟ่า แชมเศก้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดแรก คราววันอังคารที่ 16 กันยายน ที่ข้ามมา โดยแสดงตัวว่าเหมือนเป็นการยกภูเขาออกจากอกเลยทีเดียว

เพราะว่าที่ศูนย์หน้าชาวอิตาลี ที่เพิ่งเคลื่อนย้ายมาจาก โตริโน่ เมื่อช่วงซัมเมอร์ ได้กล่าวว่า ผมดีใจ เพราะว่าเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่มีคนพูดกับผมถึงความล้มเหลว ต้องไม่ลืมว่าการผมมาที่นี่ ผมมาในฐานะชาวต่างชาติ ฉะนั้นผมจำเป็นต้องใช้เวลาปรับตัว ซึ่งผมกำลังทำงานอย่างหนัก โค้ชด้วยกันเพื่อนร่วมฝ่ายที่นี่เยี่ยมมากๆ ช่วยผมมากมาย การมาทำงานที่ต่างประเทศ ช่วยให้คุณเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้น กับผมชอบที่จักสวมเสื้อตัวนี้

ซึ่งผมขอยกประตูนี้ให้กับครอบครัว, ภรรยา, ลูกของผม อย่างที่พวกเขารู้ว่ามันยากขนาดไหนกับการเริ่มต้นต้นที่นี่ ประตูนี้เป็นเหมือนการยกภูเขาออกจากอกเลยทีเดียว หัวหอกวัย 24 ปี ร่ายยาว

ด้วยกันทั้งนี้ จากการเอาชนะ เหล่าไอ้ปืนใหญ่ ไปในเกมนี้ ทำให้พวกเขากลายเป็นผู้นำกลุ่มดี มี 3 คะแนนเต็มจากการเล่นหนึ่งนัด โดยในโปรแกรมหลังจากนั้นทัพ ฝ่ายเสือเหเลื่องง จักต้องออกไปเยือน อันเดอร์เลชท์ ในวันพุธที่ 1 ตุลาคม ต่อไป



ทางด้านซิเมโอเน่ โอดว่าหมีเสียโอกาสไปท่วมท้นทำพ่ายกอส 2-3


ปางซิเมโอเน่ โอดว่าทัพทีม ตราหมี นั้นใช้โอกาสเปโจษจันง ทำให้เป็นเหตุให้บุกไปพ่าย หมู่กอส 2-3 ในเกม แชมเศก้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดแรกเมือคืนนี้

ซึ่งทางด้าน ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ของ แอตเลติโก มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลาลีกา สเปน ออกโรงเสียดาย หลังใช้โอกาสเปลือเลื่องง จนเป็นเหตุทำให้พวกเขาบุกไปพ่าย โอลิมเศกยกอส 2-3 ในเกมนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มศึก ยูฟ่า แชมเศก้ยนส์ ลีก ปางวันอังคารที่ 16 กันยายนที่เปลี่ยนมา พร้อมชมคู่แข่งว่ามีความแข็งแกร่งพอตัวเลยทีเดียว

พร้อมกับทางกุนซือฟุตบอลชาวอาร์เจนไตน์ ผู้พาทัพ พวกตราหมี คว้ารองแชมป์ ยูซีแอล ครั้นปีที่แล้ว โดยได้กล่าวว่า มันเป็นเกมที่ยาก เรารู้ดีตั้งแต่วินาทีแรก โอลิมเศักราชยกอส ทำเป็นเข้ารอบมาได้ กับพวกเขาจักต้องสู้กับเรากับ ยูเวนตุส สองพวกใหญ่ในยุโรป เรามีเกมบุกที่ดี มีโอกาสในช่วงครึ่งเวลาแรก แต่พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นพอได้บุกใส่ โอลิมเพรรษายกอส โชคดีตราบอยู่ปากประตู พร้อมด้วยเราไม่สามารถทำได้ครั้นเมื่อมีโอกาส

โดยทั้งนี้ ทัพ หมู่ตราหมี มีเกมนัดถัดจากโดยจักพบกับ ยูเวนตุส แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศอิตาลี ที่สนาม บิเซนเต้ กัลเดร่อน รองลงไป



พี่เจิดรับพวกหงส์หืดจับแม้เชือดฝ่ายลูโดโกเรตส์ได้สำเร็จ


เจิด ยอมรับ คณะหงส์แดง ต้องเล่นให้ดีกว่านี้ หากหวังจะอยู่รอดในศึก บิ๊กเอียร์ จากนั้น หลังฟอร์มไม่ค่อยแจ่ม แม้เชือด ลูโดโกเรตส์ ได้สำเร็จ

จนกระทั่งทางสตีเว่น เจอร์ราร์ด จอมทัพกัปตันกลุ่มของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมายอมรับว่า คณะของตนเองยังเล่นได้ไม่ดีนัก และต้องปรับปรุงฟอร์มการเล่นให้ดีขึ้นกว่านี้ ถ้าหากหวังจักไปได้ไกลในถ้วย ยูฟ่า แชมเพรรษา้ยนส์ ลีก แม้เกมนัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม จะทำเป็นเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ลูโดโกเรตส์ พวกดังจากบัลแกเรีย ไปได้แบบหืดจับ 2 - 1 ทันทีที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา

ซึ่งเกมในนัดนี้ หมู่ลิเวอร์พูล มาได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จากจุดโทษของ สตีวี่จี ช่วยให้พวกเขาทำเป็นเก็บ 3 แต้มแรกได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม มิดฟิลด์จอมเก๋า ก็ยอมรับว่าฟอร์มการเล่นเพราะรวมนั้นยังไม่ดีสักเท่าไหร่นัก เราเล่นกันได้โอเค แต่เราไม่ได้เล่นดีกว่าคำว่าโอเคเลย มันยังมีอะไรที่เราต้องเรียนรู้อีกมากมาย เรามักจะมีปัญหาเวลาโดนเกมสวนกลับ ในรายการนี้ ถ้าเกมหน้าเราเอาชนะ บาเซิ่ล ได้ มันจักทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่ดี พร้อมกับมีโอกาสเข้ารอบ แต่ก่อนอื่นเลย เราต้องเล่นกันให้ดีกว่าเกมนัดนี้

ด้วยกันนอกจากนี้ กัปตันทัพพวก หงส์แดง วัย 34 ชันษา ยังได้ออกมากล่าวชื่นชม มาริโอ บาโลเตลลี่ หัวหอกป้ายแดง ที่ทำได้เบิกสกอร์แรกของตัวเองกับพวก ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในเกมนัดนี้ เพราะว่าระบุว่า คุณต้องให้เครดิตกับ บาโลเตลลี่ เขาพบกับปัญหาในการทำประตู มาสักพักหนึ่งแล้ว แต่การเป็นดาวยิงที่ดีคุณจะต้องเดินหน้าถัดจาก พร้อมกับหาโอกาสทำประตูให้ได้ กับในที่สุดเขาก็ทำมันสำเร็จ นอกจากนี้เขายังเป็นนักเตะที่ขยันกับทุ่มเทอีกด้วย

ซึ่งด้วยว่าคณะ ลิเวอร์พูล มีคิวลงเล่นในศึก บิ๊กเอียร์ อีกครั้ง ในวันที่พุธที่ 1 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ โดยจักพบกับ เอฟซี บาเซิ่ล จากสวิตเซอร์แลนด์

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

นี่คงจะเป็นตัวลงท้ายของกลุ่มเชลซีก็เป็นได้? กับผู้ชายที่ปรมาภิไธยว่า ดีเอโก้ ดา ซิลวา คอสต้า



ตัวสุดท้ายคือ ดีเอโก้ ดา ซิลวา คอสต้า



นี่คือจิ๊กซอว์ที่ควานหา! ดีเอโก้ คอสต้า ดาวยิงพันธุ์ดุ ที่เป็นขวัญใจคนใหม่ของเหล่าพลพรรคสาวก ทีมเดอะ บลูส์

ซึ่งถ้าจะวิเคราะห์บอลเอิ้นถึงฝ่ายที่ออกสตาร์ทได้ดีที่สุดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูหน 2014-15 ในช่วง 3 เกมแรก แต่ก่อนถึงช่วงพักเบรกทีมชาติ ก็คงต้องจับจ้องไปที่ ทีมสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ซึ่งกำลังนำเป็นจ่าฝูงอยู่ ณ เวลานี้ มี 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัด ยิงได้ 11 ประตู และเสีย 14 ประตู

โดยนี่ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ทีมสิงห์บลูส์ ผลงานเปรี้ยงปร้างนั้น 1 เครดิตก็คงต้องโงให้กับเขาคนนี้เลย ดีเอโก้ ดา ซิลวา คอสต้า หรือ ดีเอโก้ คอสต้า กองหน้าป้ายแดง ซึ่งขนส่งจาก ตราหมี แอตเลติโก มาดริด มาใช้ชีวาในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อคราวซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์หรือ 1,760 ล้านบาท ครบถ้วนสัญญา 5 ปี สวมเสื้อเลขหมาย 19


ตัวของดิเอโก้ คอสต้า ที่เคลื่อนมาเรียบร้อยเพื่อนแก๊งค์จากลาลีกา

ซึ่งถ้าเรียนถามว่าทำไมต้องยกเครดิตให้กับ คอสต้า? ก็ต้องพิสูจน์ย้อนกลับไปดูทีม เชลซี เมื่อฤดูครั้งที่แล้ว ตกว่าทีม เชลซี เมื่อปีก่อนจำต้องเจอกับข้อสงสัยอย่างหนักในการจบสกอร์ของผู้เล่นกองหน้า ไม่ว่าจะหมายความว่า 1.เฟร์นานโด ตอร์เรส, 2.เดมบา บา และ 3.ซามูเอล เอโต้ ซึ่ง 3 ท่านนี้ยิงรวมกันได้แค่ 19 ประตูเท่านั้นเอง โดยดาวซัลโวบริบูรณ์ของทีมนั้นกลับเป็นผู้เล่นหุ้นส่วนอย่าง เอแด็น อาซาร์ ที่ 14 ประตู

และแล้ว ในหางที่สุดพวกเขาก็หาจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญนี้มาจนได้คือการได้ตัว คอสต้า มานั่นเอง และตอนนี้ก็ตะบันไปแล้ว 4 ตุงจาก 3 เกม โดยประตูแรกในสีเสื้อ ทีมสิงห์บลูส์ ของ คอสต้า นั้นใช้เวลาแค่ 17 นาทีเท่านั้น ซึ่งต่างจากตัว เอล นินโญ่ ลิบลับเลย เนื่องจากต้องใช้เวลาถึง 732 นาที ในการเปิดซิงประตูแรกกับ ทีมเชลซี


ซึ่งเพียงแค่แมตช์แรกของศึกพรีเมียร์ลีกเจ้าตัวก็ทำประตูได้ทันที

ในช่วงเวลาคราวต่อมาถ้าคาดคั้นว่า คอสต้า เป็นกองหน้าตอบโจทย์ที่ เชลซี ต้องการไหม? คนอื่นไม่รู้คิดยังไงเหมือนกัน แต่ส่วนตัวแล้วขอบอกเลยว่าหลงใหลมาก ซึ่งสาเหตุนั้นก็เป็นก็เพราะว่า

  1. เป็นผู้เล่นที่มีความแข็งแรงกำลังมหาศาล 
  2. บุกตะลุยชน
  3. ปะทะฟัดเหวี่ยงกับกองหลังคู่แข่งได้ดี
  4. มีความเคร่งครัดแน่วแน่
  5. ดุดัน
  6. ความเฉียบคมในการจบสกอร์ 
  7. ไหวพริบดี
ซึ่งที่น่าปฏิพัทธ์ที่สุดก็คือ 1.ความตุกติก, 2.เล่นแง่, 3.เจ้าเล่ห์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เป็นคนที่รบกวนทีนนนน นั่นแหละ อันนี้ชอบมากจริงๆ ชอบมาตั้งแต่ซีซั่นที่แล้วตอนอยู่กับทีม แอตฯ มาดริด ซึ่ง คอสต้า มักจะมีปัญหากับ เปเป้ และ เซร์คิโอ รามอส อยู่บ่อยครั้งตอนเจอกัน ทั้ง 3 คนที่มักจะเล่นนอกเกมใส่กันบ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็น 
  • ถุยน้ำลายใส่
  • ดอดเจาะยางช่วงได้ลุ้นจากลูกเตะมุม
  • ผลักหัวผลักหน้าอกหาเรื่อง และอีกมากมาย 
และบางทีก็หนักข้อจนเกือบทำให้พวกเขาต้องสวมบทบาทนักมวยกันเลยทีเดียว



ซึ่งเว้นแต่การทำประตูยังสะเด่าแล้ว เรื่องการดูดทีนก็ดำรงฐานะอีกอย่างที่คอสต้าเด่นมาตลอด

และถ้าเสวยพระชาติจะพูดว่า คอสต้า เพิ่งมาแจ้งเกิดได้กับทาง ทีมตราหมี เมื่อฤดูกาลที่แล้วเอง  นั่นก็สามารถจะจริงนะ ก็เพราะว่าก่อนหน้านั้นเขาต้องตกเป็นตัวสำรองของ ราดาเมล ฟัลเกา และ เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน

เพียงแต่ถ้าลองย้อนกลับไปไล่ค้นหาดูจริงๆ คอสต้า นั้นรอบรู้มาตั้งนานแล้วนะ เวลาได้รับโอกาสลงสนามก็จะยิงประตูได้ตลอด และก็ปลูกสร้างปัญหาในกับดอมรับคู่แข่งได้มากเลย ตอนปี 2010 ที่ กุน ยังอยู่ คอสต้า ยิงได้ 8 ประตูจาก 39 เกมบวกทุกรายการ ส่วนตอนที่เป็นสำรองของ ฟัลเกา เมื่อ 2 ปีก่อน พี่แกยิงได้ 20 ประตูจาก 44 เกมรวมทุกรายการ

ซึ่งก่อนที่จะมารับบทกองหน้าตัวจริงตัวเด่นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยระเบิดตาข่ายไปถึง 36 ตุงจาก 52 เกมรวมทุกรายการ ซึ่งก็ได้เห็นแล้วว่านักเตะรายนี้นั้นมีฝีเท้าที่จัดจ้านขนาดไหน ขนาดเป็นแค่สำรองยังลั่นไกได้เป็นกอบเป็นกำเลย

และถ้าให้ลองเปรียบเทียบระหว่าง คอสต้า กับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา จะมองว่าทั้งคู่นั้นมีความดุจดังกันสูงเลย ทั้ง 1.ความเฉียบคม, 2.พละกำลัง, 3.ความถึก และ 4.ความตุกติกเจ้าเล่ห์ และแน่นอนว่าเขานั้นเหมาะสมกับการเล่นร่วมกับ ทีมเชลซี มากๆ หลังจากได้มองดูบทพิสูจน์แล้วใน 3 นัดแรกของฤดูกาล


นั่นทั้งเป็นการดีที่ดร็อกบายอมเป็นสำรองของคอสต้าทำให้เชลซีปึ้กสุดๆ

โดยที่ส่วนตัวแล้วนี่แหละครับ! จิ๊กซอว์ ที่สูญไปของทาง เชลซี พวกเขามีกองหน้าตัวเป้าแบบนี้ และหากโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาจะเป็นภายหน้าและเรื่องเล่าแห่งรั้ว สแตมฟอร์ม บริดจ์ อย่างแน่นอน

รายการประวัติของ คอสต้า
  • ชื่อเต็ม : ดีเอโก้ คอสต้า
  • เกิดวันที่ : 7 ตุลาคม ปี 1988 
  • อายุ : 25 ปี 
  • สถานทีเกิด : เลการ์โต้ ประเทศ บราซิล
  • ส่วนสูง : 1.88 เมตรหรือ 6 ฟุต 2 นิ้ว
  • ตำแหน่ง : กองหน้า
  • สโมสรช่วงเยาวชน : บาร์เซโลน่า อีซี
สำหรับการเกริ่นต้นหน้าที่ค้าแข้งกับทีม บราก้า ปี 2004 จากนั้นก็ขนส่งมาอยู่กับทีม แอตเลติโก มาดริด ในปี 2007 แต่ก็ถูกปล่อยออกไปเก็บความช่ำชองกับ ทีมบราก้า, ทีมเซลต้า บีโก้ และ ทีมอัลบาเซเต้ และก็ได้ย้ายไปอยู่กับ ทีมเรอัล บายาโดลิด ในปี 2009 ก่อนจะย้ายกลับมาอยู่กับ ทีมตราหมี อีกครั้งในปี 2010 โดยตลอดช่วงอาชีพค้าแข้งยิงไปแล้วทั้งสิ้น 107 ประตูจาก 281 เกม ติดหมู่ชาติ บราซิล 2 นัด และ ทีมชาติ สเปน 5 นัด


ข่าว!! โบลต์ตีแผ่บอกให้กนิษฐาโอ้ให้คัมแบ็กอังกฤษเอง



ล่าสุด โบลต์ ได้ถลกปากบอกเอง ให้ เจ้าเกรียนโอ้ คัมแบ็กแดนผู้ดี หลังชิ่ง ทีมปีศาจแดง-ดำ ซบตัก ทีมหงส์แดง

จริงหรือไม่? ที่ยูเซน โบลต์ มัตถกนักวิ่งเจ้าแห่งลมกรดสายฟ้าชาวจาไมก้า ได้เผยว่า เขานั้นเป็นคนเปิดปากบอกให้ มาริโอ บาโลเตลลี่ ดาวยิงจอมเกรียนชาวอิตาเลี่ยน ย้ายทวนกลับมาค้าแข้งยังแดนผู้ดีอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ เจ้าเกรียนโอ้ ได้ย้ายจากทีม เอซี มิลาน ทีมใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มาอยู่กับ เหล่าลิเวอร์พูล สโมสรชั้นนำแห่งศึก โปรแกรมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์หรือ 880 ล้านบาท เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

หลังจากที่ยอดนักวิ่งเท้าไฟจาก จาไมก้า ซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้ของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์ว่า เราสองคนได้คุยกันในวันหนึ่ง และผมก็ได้บอกเขาว่า อังกฤษ คือที่ๆ ดีที่สุดสำหรับการเล่นฟุตบอล ซึ่งเวลาเขาทำผิดพลาดในการเจอกับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมคิดว่าทุกคนนั้นคงจะมีความสุขดีนะ!

และพร้อมกันนี้ตัว โบลต์ ยังเชื่อว่า หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือใหญ่ ทีมปีศาจแดง ขาดไม่ได้ต้องใช้เวลาในการปรับตัวและสร้างทีม หลังออกสตาร์ทฤดูกาล 2014-15 ได้อย่างน่าผิดหวัง โดยระบุว่า เรื่องนี้มันเป็นเรื่องยากที่ทีมจะปรับตัวเข้ากับระบบแผนใหม่ได้ แต่เวลานั้นคือทั้งปวงที่จะทำให้อะไรๆ มันสัตขึ้นทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องกลับมาอยู่ในโขยงท็อปโฟร์ให้ได้ ถึงแม้พวกเขาจะไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้ แต่พวกเขาจะต้องกลับไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ ซึ่งหลังจากนั้นในฤดูกาลหน้าเราก็จะมีความสามารถที่เจ๋งพอที่จะคว้าแชมป์ลีกได้



คงไม่หมดง่ายๆ พระขนองหนูแจ็คโต้เจมี่! ว่า อย่ามาสอนเรื่องฟอร์มการเล่น


สุดจะแรง ! หลังจากที่ วิลเชียร์ จวกกลับ เจมี่ หลังถูกด่าทอเรื่องฟอร์มการเล่นไม่คืบหน้า หลังพ้นโรคเดี้ยงโดยสวนตอบคืนว่าไม่ต้องการคนที่บาดเจ็บบ่อยเหมือนกัน กาลสมัยเป็นนักเตะมาสั่งสอนในเรื่องนี้

หลังจากที่ แจ็ค วิลเชียร์ มิดฟิลด์ภามหนุ่มของ ทีมอาร์เซน่อล ยักษ์ใหญ่แห่งเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตีโต้คำวิจารณ์ของ เจมี่ เร้ดแน็ปป์ อดีตมิดฟิลด์หน้าหล่อของ ลิเวอร์พูล ที่ออกมาตำหนิเรื่องฟอร์มการเล่นที่ไม่พัฒนาขึ้น หลังพ้นปัญหาบาดเจ็บตามรุมเร้า โดยดาวเตะ ทีมปืนใหญ่ สวนกลับแบบเจ็บแสบว่าตนเองก็ไม่ต้องการคนที่เดี้ยงพอๆ กัน มาสอนเรื่องวิธีการเล่น

ซึ่งก่อนหน้านี้ เร้ดแน็ปป์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นกูรูวิจารณ์เกมลูกหนังให้กับสื่อ สกาย สปอร์ต สถานีกีฬาแดน เมืองผู้ดี ตำหนิฟอร์มการเล่นของ แจ็ค ว่า ไม่ได้ยกระดับเกมให้ดีขึ้น ในช่วงระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา และก็ยังไม่เห็นว่า วิลเชียร์ จะมีความก้าวหน้าอะไรมากมาย ดังนั้นคิดว่านักเตะรายนี้คงเอาอาการบาดเจ็บมาอ้างไม่ได้อีก

และจากคำตำหนิดังกล่าว ส่งผลให้มิดฟิลด์ทัพ ทีมปืนใหญ่ ออกมาโต้ตอบว่า นั่นมันเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนที่อยู่ในโทรทัศน์ และสั่งว่า 'ควรจะทำแบบนี้ หรือ ควรจะทำแบบนั้น' แต่ถ้าคุณมองย้อนกลับไป เจมี่ ก็เคยได้รับบาดเจ็บพอๆ กับผมแหละ บางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เช่นนั้นผมไม่ต้องการคนที่อยู่ในทีวีมาสอนผมว่าจะต้องเล่นยังไง



ตัวของชากิรี่ ยันทีมหงส์จีบจริงแต่พี่เสือกันท่า


ซึ่งทาง ชากิรี่ ได้แสดงตัวว่า ถูกทีมหงส์ ทาบทามก่อนเริ่มศึก เวิลด์ คัพ 2014 ซึ่งตนก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรแต่เป็นทางบอร์ด บาเยิร์น ที่เลือกปัดข้อเสนอทันควัน โดยยืนยันว่าจะไม่ซื้อขายตนไปที่ไหนเด็ดขาด

หลังจากที่ เซอร์ดาน ชากิรี่ ปีกร่างบึ้กของ ทีมบาเยิร์น มิวนิค ทีมมหาอำนาจแห่งศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน ร้องเรียกปากให้สัมภาษณ์รำลึกถึงความหลัง โดยแค่นอย่างชัดเจนว่าทีม ลิเวอร์พูล ได้มีการยื่นข้อเสนอเข้าทาบทามตนอย่างเป็นทางการเข้ามาในช่วงเปิดตลาด ซัมเมอร์ครั้งล่าสุด แต่บอร์ดบริหารของทัพ ทีมเสือใต้ ก็เลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวอย่างไร้เยื่อใย อย่างไรก็ตาม ตนจะขอประเมินค่าสถานการณ์ของตัวเองอีกครั้งในขณะเดือน มกราคม ที่จะมาถึงนี้ ว่าจะเลือกเก็บข้าวของย้ายรังเสียทีหรือไม่

เมื่อดาวเตะทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ทีมลิเวอร์พูล ได้ยื่นข้อเสนอขอซื้อผมก่อนเริ่มศึก เวิลด์ คัพ 2014 แต่ ทีมบาเยิร์น ก็ทุบโต๊ะขวางและบอกกับผมว่าพวกเขาจะไม่มีทางขายผมออกไปแน่นอน สัญญาของผมตอนนี้ยังมีถึงปี 2016 และมันก็มีความเป็นไปได้ที่ผมจะขยายสัญญาออกไปอีก อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมันต้องมีขั้นมีภาค และผมจะประเมินสถานการณ์ของตัวเองอีกครั้งในช่วงเปิดตลาดหน้าหนาวนี้

และนอกจากนี้ ชากิรี่ ยังไม่ลืมที่จะพูดถึงตารางบอลเกมรอบคัดเลือกศึก ยูโร 2016 ที่ทัพ ทีมนาฬิกา จะพบกับ อังกฤษ ในคืนวันเดือนที่จะถึงนี้ 8 กันยายน เช่นกัน โดยได้กล่าวว่า สำหรับผม ผมคิดว่ามันจะมีผู้บรรเลงดาวรุ่งหลายๆ คนของ อังกฤษ ที่หมู่เราหลายๆ คนไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ได้รับโอกาสลงสนาม พวกเขาต้องการที่จะแก้ตัวจากการที่ทำชิ้นงานได้น่าผิดหวังในศึก เวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย แต่เราจะเล่นไปตามเกมของเราปกติ ด้วยกันมองถึงการคว้าชัยชนะในบ้านตัวเอง

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ระบุผลบอลตารางพรีเมียร์ลีกที่จะปิดเงียบฤดูกาลใหม่ในไม่กี่ดวงตะวันนี้



เท่าที่โรนัลโด้ ได้รับคำท้านุ่งกางเกงลิงราดน้ำเย็นจัด+คลิป



หลังจากที่กำลังกลายเป็นที่นิยมอย่างมากกับแคมเปญการกุศล ที่เหล่าคนดังเอาน้ำเย็นจัด มาราดใส่ตัวเอง หรือ ไอซ์ บักเก็ต ชาเลนจ์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมหาทุนช่วยผู้ป่วยที่เป็นโรค เอแอลเอส หรือ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ล่าสุด คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกคนสำคัญทีม ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ก็ได้ร่วมแคมเปญนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งโรนัลโด้ ได้ตกลงรับคำท้าทายมาจาก ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ รองกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นอดีตเพื่อนร่วมทีมเก่า สมัยค้าแข้งกับทีมปีศาจแดง และทาง โรนัลโด้ ออกมารับคำท้า เอาน้ำเย็นราดตัวเองเป็นที่สวยแล้ว

และยังได้ราดน้ำเย็นใส่ตัวเอง ทั้งๆ ที่นุ่งกางเกงในเพียงตัวเดียว ก่อนจะบอกให้ 1.บียอนเซ่, 2.ลิลเวยน์ และ 3.เจนิเฟอร์ โลเปซ 3 ซูเปอร์สตาร์ของวงการท่วงทำนองสหรัฐฯ เป็นผู้ท้าชิงรายต่อไป นอกจากนี้ มาร์เชโล่ แบ็กซ้ายเรอัล มาดริด ชาวบราซิล ยังได้ส่งสารท้าดวลไปยัง เนย์มาร์ กองหน้าทีมบาร์เซโลน่า ด้วย

และสำหรับกติกาของแคมเปญนี้คือ คนที่ถูกท้าทายจะมีเวลาตัดสินใจเพียง 1 วันว่าจะทำตามคำท้าหรือไม่ ซึ่งถ้าหากไม่ทำตามภายในเวลาที่กำหนดก็จะต้องบริจาคเงิน หรือจะเลือกทำทั้ง 2 อย่างเลยก็ได้ และในตอนนี้ก็มีคนดังหลายคนที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นนักร้องอย่าง 

1.จัสติน ทิมเบอร์เลค
2.มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง เฟซบุ๊ก
3.บิล เกตต์ อดีต ซีอีโอ ของ ไมโครซอฟต์
4.ทิม คุก ซีอีโอ แอปเปิ้ล ฯลฯ












เมื่อมีการเปิดประมูลเสื้อที่ซูนิก้าใส่ทำเนย์มาร์เกือบพิการ





คงเป็นที่ถูกใจขาโหด สำหรับแฟนบอลหัวใส ได้เปิดประมูลเสื้อแข่งทีมชาติโคลอมเบีย ของ ซูนิก้า ที่ใส่ในเกมทำ เนย์มาร์ หลังเดี้ยง ในศึก เวิลด์คัพ14 โดยล่าสุดราคาพุ่งเฉียด 7 หมื่นแล้ว

หลังจากที่ อาส สื่อชื่อดังของประเทศสเปน ระบุว่า ได้มีแฟนบอลหัวใสรายนึง นำเสื้อที่ ฮวน ซูนิก้า ฟูลแบ็กทีมชาติโคลอมเบีย สวมลงแข่งขันในเกมที่ทัพ โคเคน พ่ายให้กับ ทีมชาติบราซิล ไป 2-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ออกมาแข่งขัน โดยได้รับความนิยมจากแฟนบอลอย่างมาก จนราคา ณ ตอนนี้พุ่งไปสูงถึง 1,400 ยูโรหรือ 63,000 บาท แล้ว

สำหรับ ซูนิก้า ได้ถูกพูดถึงอย่างมากจากเกมการแข่งขันนัดดังกล่าว หลังจากที่เขาได้เข้าปะทะด้านหลังของ เนย์มาร์ จนทำให้กองหน้าตัวปราดเปรื่องทีมชาติบราซิล ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจนตระหนี่สันหลังร้าว ทำให้ต้องรูดม่านปิดฉากศึก เวิลด์คัพ14 ไปก่อนเพื่อนร่วมชาติรายอื่นๆ และการที่ขาด เนย์มาร์ นี่เอง ก็ทำให้ความแข็งแกร่งของทัพทีม แซมบ้า ลดน้อยลง จนไปไม่ถึงฝั่งฝัน ต้องแพ้ให้กับทีมชาติเยอรมัน ไปอย่างหมดรูปในรอบรองชนะเลิศถึง 1-7 ประตู

และแฟนบอลคนดังกล่าวยังได้ตั้งราคาแจ้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 500 ยูโรหรือ 4,500 บาท โดยตอนนี้ราคาก็พุ่งขึ้นไปสูงถึง 1,400 ยูโร ด้วยกันยังเหลือเวลาประมูลอีกจนถึงวันที่ 25 สิงหาคมที่จะถึงนี้



เข้าโค้งสุดท้ายใครจะเข้ามาเติมเต็มทีมแต่ละทีม



เหลืออีกเพียงไม่กี่วันพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2014-15 ก็จะระเบิดศึกเปิดฤดูกาลแล้ว เช่นเดียวกับตลาดนักเตะที่ก็จะปิดตัวลงภายในสิ้นเดือนนี้ เข้าสู่ช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายแล้วจริงๆที่บรรดาทีมต่างๆจะเฟ้นหานักเตะมาเสริมกำลังพล วันนี้มาดูสิว่า ทางสโมสรต่างๆในพรีเมียร์ลีกยังขาดตกบกพร่องตรงตำแหน่งใดและแข้งคนไหนจะเข้ามาอุดรูรั่วตรงนั้นเราลองมาวิเคราะห์บอลกันดู

ทีมอาร์เซน่อล


1.ตำแหน่งที่ยังขาด : เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
2.ผู้เติมเต็ม : คอสตาส มาโนลาส ทีมโอลิมเปียกอส
3.ค่าตัวประมาณ : 8 ล้านปอนด์

ทีมปืนใหญ่ นั้นต้องการตัวแทน โธมัส แฟร์มาเล่น ที่ย้ายไปทีม บาร์เซโลน่า จริงๆแล้วเป้าหมายหลักที่พวกเขาต้องการคือ 1.คริส สมอลลิ่ง หรือ 2.มาติย่า นาสตาซิช ของทีมแมนฯ ยูไนเต็ด และ ทีมแมนฯ ซิตี้ ตามลำดับ แต่ว่า มาโนลาส ตัวทีมชาติกรีซดูจะเป็นไปได้และคุ้มกับเงินที่มีอยู่มากที่สุด

ทีมเบิร์นลี่ย์


1.ตำแหน่งที่ยังขาด : กองหน้า
2.ผู้เติมเต็ม : ทรอย ดีนี่ย์ ทีมวัตฟอร์ด
3.ค่าตัวประมาณ : 10 ล้านปอนด์

ถึงแม้ว่าจะมี 1.แดนนี่ อิงส์ และ 2.แซม โว๊คส์ 2 กองหน้าตัวเก่งอยู่แล้ว แต่ด้วยคุณภาพของพรีเมียร์ลีกที่เทียบไม่ได้กับแชมเปี้ยนชิพ จำเป็นต้องมีอาวุธเสริมที่หนักขึ้นของน้องใหม่รายนี้ 10 ล้านปอนด์อาจจะมีราคาไปสำหรับ ดีนี่ย์ แต่เชื่อว่าเบิร์นลี่ย์ยังไงก็ต้องยอมจ่าย


ทีมเลสเตอร์ ซิตี้


1.ตำแหน่งที่ยังขาด : มิดฟิลด์ตัวรับ
2.ผู้เติมเต็ม : เอสเตบัน คัมบิอาสโซ่
3.ค่าตัวประมาณ : ฟรี แต่ค่าเหนื่อยสูงลิ่วแน่นอน

ซึ่งด้วยประสบการณ์ และ ชั้นเชิงที่เหลือกินของอดีตทีมชาติอาร์เจนติน่ารายนี้ จะช่วยทีม สุนัขจิ้งจอก ในการดิ้นรนให้อยู่รอดปึกแผ่นบนลีกสูงสุดได้มาก ถือเป็นของดีที่น่าดึงมาช่วยทีมอย่างที่สุด



1.ตำแหน่งที่ยังขาด : กองหน้า
2.ผู้เติมเต็ม : ซามูเอล เอโต้
3.ค่าตัวประมาณ : ฟรี

ซึ่งการจากไปของ หลุยส์ ซัวเรซ สู่ทีม บาร์เซโลน่า และอาการบาดเจ็บของ อดัม ลัลลาน่า ตั้งแต่ฤดูกาลยังไม่เปิด บวกกับอาวุธในมือที่มีอยู่ คงไม่พอแน่กับโปรแกรมหฤโหดทั้งในลีก โปรแกรมบอลถ้วยและถ้วยยุโรป ประสบการณ์ของเอโต้จะเข้ามาช่วยทีมในระยะสั้นๆได้ไม่มากก็น้อย

ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


1.ตำแหน่งที่ยังขาด : เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
2.ผู้เติมเต็ม : มาร์กอส โรโฮ ทีมสปอร์ติ้ง ลิสบอน
3.ค่าตัวประมาณ : 18 ล้านปอนด์

ซึ่งโรโฮ สามารถเล่นตำแหน่งวิงแบ็กซ้ายได้ รวมถึงยังยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟได้อีกด้วยในระบบ 3-5-2 ที่ หลุยส์ ฟาน กัล ชอบใช้เป็นประจำ ผีแดงต้องการนักเตะที่จะเข้ามาเสริมตรงนี้ เพราะลำพังเซ็นเตอร์ 3 คนที่มีอยู่อย่าง 1.จอนนี่ อีแวนส์, 2.ฟิล โจนส์ และ 3.คริส สมอลลิ่ง ไม่เพียงพอในการยืนระยะยาว

ทีมเซาธ์แฮมป์ตัน


1.ตำแหน่งที่ยังขาด : กองหน้า
2.ผู้เติมเต็ม : เชน ลอง ทีมฮัลล์ ซิตี้
3.ค่าตัวประมาณ : 12 ล้านปอนด์

เมื่อทีม นักบุญ ได้กองหน้าร่างใหญ่อย่าง กราเซียโน่ เปลเล่ มาเสริมทัพ แต่ในขณะที่เดียวกันก็ต้องการคู่หูที่คุ้นเคยกับลีกแดนผู้ดีและมีความหลากหลายอย่าง ลอง มาเพื่อแบ่งเบาภาระเวลาที่ทีมต้องการประตู

ทีมสโต๊ค ซิตี้


1.ตำแหน่งที่ยังขาด : ปีก
2.ผู้เติมเต็ม : นาธาน เร้ดมอนด์ ทีมนอริช ซิตี้
3.ค่าตัวโดยประมาณ : 6 ล้านปอนด์

ซึ่งปีกความเร็วสูงทีมชาติอังกฤษชุดเล็ก คือตัวเลือกที่เป็นไปได้มากกว่า อังเดร ยาร์โมเลนโก้ แข้งยูเครน และ อุสซาม่า อัสไซดี้ เมื่อเทียบกำทุนทรัพย์ที่ทีมมีอยู่ และน่าจะประสานงานกับ โบยาน เกร์กิช หอกตัวใหม่ได้ลงตัว

ทีมซันเดอร์แลนด์


1.ตำแหน่งที่ยังขาด : กองหน้า
2.ผู้เติมเต็ม : ฟาบิโอ บอรินี่ ทีมลิเวอร์พูล
3.ค่าตัวประมาณ : 14 ล้านปอนด์

ซึ่งเขายังไม่รู้อนาคตตัวเองที่แน่นอนในถิ่นแอนฟิลด์ว่าทีม แมวดำ ต้องการซื้อขาดหัวหอกอิตาเลียนผู้นี้หลังจากเมื่อปีที่แล้วยืมตัวมาและโชว์ฟอร์มได้เป็นที่น่าพอใจ บอรินี่ สามารถเป็นกำลังหลักช่วยทีมดิ้นรนหนีตกชั้นในปีนี้

ทีมสวอนซี ซิตี้


1.ตำแหน่งที่ยังขาด : เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
2.ผู้เติมเต็ม : เฟเดริโก้ เฟอร์นันเดซ ทีมนาโปลี
3.ค่าตัวประมาณ : 8 ล้านปอนด์

หลังจากที่ได้ข่าวมาว่าดีลนี้ใกล้บรรลุเต็มทีแล้ว กองหลังทีมชาติอาร์เจนติน่าจะเข้ามาแทน ชิโก้ ฟลอเรส และเจ้าตัวก็ส่อเค้าเก็บข้าวของออกจากอิตาลีแน่ เนื่องจากโดนตัดชื่อออกจากทีมชุดลุยศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะปัญหาเรื่องเวิร์ค เพอร์มิต

ในส่วนของทีมอื่นๆที่เหลือที่ไม่ได้กล่าวถึง ทั้งทีมเล็กๆหรือแม้ถึงที่สุดทีมใหญ่อย่าง 
1.แมนฯ ซิตี้ แชมป์เก่า 
2.เชลซี
3.เอฟเวอร์ตัน
4.สเปอร์ส ฯลฯ 

ซึ่งคาดได้ว่าท้องตลาดช่วงซัมเมอร์นี้น่าจะปิดตัวลงไปก่อนแล้ว เพราะล้วนเซ็นสัญญาแข้งใหม่มาเสริมทีมกันถ้วนหน้าตั้งแต่ไก่โห่ คงเหลือเพียงแค่ปรับจูนการเล่นและแท็กติกให้ลงตัวเพื่อให้พร้อมก่อนฤดูกาลจะเปิดขึ้นเท่านั้น



อันดับทีมเต็งแชมป์พรีเมียร์ลีก1-20 ปะทะ 10 อันดับเต็งดาวซัลโว



หลังจากที่บ่อนผู้ดีได้หั่นราคาก่อนเปิดซีซั่นทีม เชลซีได้ผงาดแชมป์พรีเมียร์ลีก ส่วน 1.ทีมพาเลซ, 2.ทีมคิวพีอาร์, 3.ทีมเบิร์นลี่ย์ ร่วงตกชั้น ด้าน 1.อาร์วีพี, 2.กุน, 3.สเตอร์ริดจ์ เป็นตัวเต็งซิวดาวซัลโว

ในบรรดาบริษัทรับพนันถูกกฎหมายชั้นนำกว่า 20 แห่งของประเทศอังกฤษ ต่างได้พร้อมใจยกให้ทัพให้ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เป็นเต็งหนึ่งที่จะซิวถ้วยตารางพรีเมียร์ลีก 2014-15 ที่กำลังจะเตะเปิดฤดูกาลในสุดสัปดาห์นี้ไปครอง หลังจากจุนทัพนักเตะได้น่ากลัว

ซึ่งไม่ว่าจะเป็น 1.ดีเอโก้ คอสต้า, 2.เชส ฟาเบรกาส, 3.เฟลิเป้ หลุยส์ รวมถึงได้ 4.ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูดาวรุ่งจอมหนึบกลับมา หลังจากปล่อยยืมตัวไปสั่งสมประสบการณ์กว่า 3 ปี จนคว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน กับทีม แอตเลติโก มาดริด มาครองได้จบในซีซั่นที่แล้ว

และนอกจากนี้ยังมีขุมกำลังตัวสำรองที่แข็งแกร่ง และเชื่อมั่นในตัว โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ชาวโปรตุกีสว่าจะแก้มือได้สำเร็จ หลังจากฤดูกาลที่แล้วทำได้เพียงแค่อันดับที่ 3

ในส่วนของทีมเต็งอื่นๆรองลงมา ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันทุกสำนักคือ เต็ง2 ทีมแชมป์เก่า แมนฯ ซิตี้, เต็ง3 ทีมแมนฯ ยูไนเต็ด, เต็ง4 ทีมอาร์เซน่อล ส่วนรองแชมป์เก่าอย่างทีม ลิเวอร์พูล ตกไปเป็นเต็งห้า

ในส่วน 3 ทีมเต็งตกชั้นตามลำดับได้แก่ 1.คริสตัล พาเลซ, 2.ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส และ 3.เบิร์นลี่ย์ ซึ่งทีมหลังสุดนี้ทุกสำนักมั่นใจว่าจะเป็นบ๊วยเมื่อจบฤดูกาลแน่ ซึ่งถ้าเป็นไปตามที่บ่อนรับพนันขันต่อคาดการณ์นี้ ทีมเลสเตอร์ ซิตี้สโมสรที่มีเจ้าของเป็นคนไทย จะเป็นน้องใหม่ทีมเดียวที่อยู่รอดนั่นเอง

โดยอันดับทีมเต็งแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2014-15 จากภาพรวมของบริษัทรับพนันถูกกฏหมายของอังกฤษมีดังนี้

1.ทีมเชลซี

2.ทีมแมนฯ ซิตี้

3.ทีมแมนฯ ยูไนเต็ด

4.ทีมอาร์เซน่อล

5.ทีมลิเวอร์พูล

6.
ทีมท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์

7.
ทีมเอฟเวอร์ตัน

8.
ทีมนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

9.
ทีมเซาธ์แฮมป์ตัน

10.
ทีมสโต๊ก ซิตี้

11.
ทีมสวอนซี

12.
ทีมแอสตัน วิลล่า

13.
ทีมซันเดอร์แลนด์

14.
ทีมเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

15.
ทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด

16.
ทีมฮัลล์ ซิตี้

17.
ทีมเลสเตอร์ ซิตี้

18.
ทีมคริสตัล พาเลซ

19.
ทีมควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส

20.
ทีมเบิร์นลี่ย์

กับในส่วนตำแหน่งดาวซัลโว เต็งหนึ่งคือ 
1.โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ของแมนฯ ยูไนเต็ด
2.เต็งสอง กุน อเกวโร่ ของแมนฯ ซิตี้ และ
3.เต็งสามเป็น ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ของลิเวอร์พูล

ซึ่งอันดับตัวเต็งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2014-15 จากภาพรวมของบริษัทรับพนันถูกกฏหมายของอังกฤษ

1. โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ จากเหล่าแมนฯ ยูไนเต็ด

2. เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ 
จากทีมแมนฯ ซิตี้

3. ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ 
จากทีมลิเวอร์พูล

4. ดีเอโก้ คอสต้า 
จากทีมเชลซี

5. เวย์น รูนี่ย์ 
จากทีมแมนฯ ยูไนเต็ด

6. อเล็กซิส ซานเชซ 
จากทีมอาร์เซน่อล

7. เอดิน เชโก้ 
จากทีมแมนฯ ซิตี้

8. โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
จากทีมอาร์เซน่อล

9. โรเมลู ลูคาคู 
จากทีมเอฟเวอร์ตัน

10. วิลฟรีด โบนี่ 
จากทีมสวอนซี